กรณีผู้มีเงินได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2566 โดยแสดงความประสงค์ขอคืนไว้จำนวน 20,000 บาท ต่อมาเจ้าพนักงานสรรพากรตรวจพบว่า มีข้อมูลเงินได้จากรายการส่งเสริมการขายจำนวน 10,000 บาท ภาษีหัก ณ ที่จ่าย จำนวน 300 บาท ซึ่งยังไม่ได้นำมารวมคำนวณ เจ้าพนักงานสรรพากรได้นำเงินได้จำนวน 10,000 บาทไปรวมคำนวณ แต่ไม่ได้นำเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย จำนวน 300 บาท ไปเครดิตให้กับผู้มีเงินได้ เนื่องจากไม่มีหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตาม 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร จึงขอสอบถามว่า สามารถกระทำได้หรือไม่ครับ

กรณีตามข้อเท็จจริง ผู้มีเงินได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปีภาษี 2566 โดยแสดงความประสงค์ขอคืนไว้จำนวน 20,000 บาท ต่อมาเจ้าพนักงานสรรพากรได้นำเงินได้จำนวน 10,000 บาท ไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ แต่ไม่ได้นำเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย จำนวน 300 บาท ไปเครดิตให้กับผู้มีเงินได้ เนื่องจากผู้มีเงินได้ไม่มีหนังสือรับรองการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตาม 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร เช่นนี้ ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร บัญญัติ ให้ถือว่าเงินภาษีที่ได้หักและนำส่งไว้เป็นเงินได้พึงประเมินที่ผู้ต้องเสียภาษีได้รับ ส่วนจำนวน เงินภาษีที่หักและนำส่งไว้นั้นให้ถือเป็นเครดิตของผู้เสียภาษีในการคำนวณภาษี

พิจารณาตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร แล้วเห็นว่า ตามหลักความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร อันเป็นเจตนารมณ์ในการตราประมวลรัษฎากร ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จำนวน 300 บาท นั้น ปรากฏหลักฐานต่อเจ้าพนักงานประเมินโดยชัดแจ้งแล้วว่า ผู้จ่ายเงินได้ได้นำส่งต่อทางราชการเรียบร้อยแล้ว จึงพึงต้องให้เป็นเครดิตของผู้มีเงินได้ ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร จะเพิกเฉยต่อข้อกฎหมายไม่ได้ ถือเป็นการทำให้ผู้ขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เสียหาย.