วันก่อนฟัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” โดยมี 5 นโยบายที่น่าสนใจในปีหน้า คือ นโยบายแรก หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ส่งเด็กเรียนเก่งไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างประเทศ ใช้เงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาล และโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งซัมเมอร์แคมป์ ส่งเด็กไทยไปเรียนซัมเมอร์แคมป์ที่ต่างประเทศ
นโยบายที่ 2 นำเงินกองสลากมาพัฒนาโรงเรียนประจำอำเภอ นอกจากนี้ยังมีโครงการ SML EMPOWERING THAIS กระจายอำนาจสู่ชุมชน ส่งเงินถึงมือประชาชนให้คนในพื้นที่เลือกประกอบอาชีพ
นโยบายที่ 3 โครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้คนไทยโดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่ไม่เคยมีบ้าน ได้มีที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองเดินทางสะดวก เริ่มต้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร ไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์ จ่ายในระบบของค่าเช่าเดือนละ 4,000 บาท ผ่อนได้ยาว 30 ปี มีสิทธิอยู่ถึง 99 ปี นโยบายที่ 4 โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะเกิดขึ้นในปี 68 แน่นอน
นโยบายที่ 5 โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ 4 ล้านคน จะได้ในวันตรุษจีนปี 68 และเฟส 3 บุคคลทั่วไปจะให้ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้รัฐใกล้ชิดประชาชนมากยิ่งขึ้น
“พยัคฆ์น้อย” ฝากไปยังรัฐบาลด้วยว่าปีหน้าต้องกระทุ้ง “เมกะโปรเจกต์” คาราคาซังมาตั้งแต่รัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้แล้วเสร็จเสียที! เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนอื่น ๆ ต่อเนื่องตามมา
เช่น มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. เริ่มสร้างมาตั้งแต่เดือน ส.ค. 59 ถ้ารัฐบาลและกระทรวงคมนาคมไม่ลงไปจ้ำจี้จ้ำไชผู้รับเหมาก่อสร้าง คาดว่าปี 68 ก็ยังไม่เสร็จ!
โครงการรถไฟความเร็วสูงสายแรก ช่วงที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย ต้องรีบดำเนินการเปิดประมูลหาผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้าง และต้องไปดูการก่อสร้างช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ที่ลงมือมาตั้งแต่ปลายปี 60 ปัจจุบันคืบหน้าไปกี่เปอร์เซ็นต์ ติดปัญหาตรงไหนบ้าง จะสร้างเสร็จทันเปิดวิ่งในปี 70 หรือไม่
โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 2.24 แสนล้านบาท ที่มีการทำสัญญากันตั้งแต่เดือน ต.ค. 62 ผ่านไป 5 ปี ถือว่าล่าช้ามาก ๆ
ดังนั้นปี 68 โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน ควรลงมือตอกเสาเข็มเสียที! หลังจากกระทรวงคมนาคมได้เจรจาปัญหาต่าง ๆ กับกลุ่มซีพี–อีอีซี ที่มีมาตั้งแต่ปี 62 จนสำเร็จลุล่วง ทำให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปได้ และภาครัฐไม่เสียหาย เพื่อที่โครงการอีอีซี และเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะได้เกิด!
หลายคนแนะนำให้ “ยกเลิกสัญญา” แล้วเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินกันใหม่! แต่กระทรวงคมนาคมได้หารือหลายฝ่ายแล้วทำไม่ได้ เพราะ 1.มีมติ ครม. ค้ำคอว่าถ้ามีปัญหาให้เจรจากับเอกชนก่อน!
2.ถ้าเปิดประมูลใหม่ ต้องเสียเวลาอีก 1-2 ปี และ 3.สัญญาที่ทำไว้ ภาครัฐต้องจ่ายอุดหนุนค่างานโยธา ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท หากเปิดประมูลใหม่แล้วงบประมาณก้อนนี้งอกขึ้นมาอีก 2-3 หมื่นล้านบาท (ประเมินตัวเลขต่ำ ๆ) ใครจะรับผิดชอบ!!.
……………………………………………
พยัคฆ์น้อย