สิ้นสุดการรอคอย สำหรับแฟนหนังไทยที่ติดตามผลงานของ “พุฒิพงษ์ นาคทอง” ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง 4 KING ทั้งภาค 1 และ 2 กับงานหนังกระแสแรงล่าสุด “วัยหนุ่ม 2544” ที่ว่าด้วยเรื่องของเหล่านักโทษชายวัยรุ่น ในรั้่วกำแพงที่ต้องรักษาลมหายใจเอาไว้ให้นานที่สุดเพื่อจะได้กลับไปมีอิสรภาพหลังรับโทษทัณฑ์ที่ตัวเองก่อไว้ เรื่องนี้เป็นการผนึกกำลังร่วมทุนจากค่าย เนรมิตรหนัง ฟิล์ม, ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ และกำ-กับ-หนัง
อธิบายคำว่า “วัยหนุ่ม” ความจริงแล้ว “วัยหนุ่ม” ในหนัเรื่องนี้เป็นชื่อทัณฑสถาน เช่น “ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง” เป็นเรือนจำที่มีอำนาจควบคุมผู้ต้องขังอายุระหว่าง 18 – 25 ปี ที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 30 ปี และเป็นคดีที่เสร็จเด็ดขาดแล้ว(พิพากษาแล้ว) เหล่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะต้องคอยให้คำปรึกษาแนะนำในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังวัยหนุ่ม เน้นให้การศึกษาอบรมและฝึกวิชาชีพ เพื่อฟื้นฟูแก้ไขปรับปรุงพฤติกรรมให้ถูกต้อง ตามหลักทัณฑวิทยา และนโยบายของกรมราชทัณฑ์
เรื่องย่อ เมื่อ “เผือก” (รับบทโดย ณัฏฐ์ กิจจริต) เด็กหนุ่มที่มีปมปัญหาครอบครัวเนื่องจากแม่ขายยาเสพติด เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงชีพและส่งเสียเขาได้เล่าเรียนแต่เด็ก จนกระทั่งเขาได้เข้าเรียนในโรงเรียนช่างกล แต่แล้ววันหนึ่งนักเลงแถวบ้านได้เข้ามาหาเรื่องด่าทอลามไปถึงบุพการี “เผือก” ฟิวส์ขาด ชักปืนยิงหัวอริตายคาที่ นั่นจึงทำให้เขาต้องรับโทษทัณฑ์จำคุกในทัณฑสถานวัยหนุ่ม
เช่นเดียวกันกับ “ฟลุ๊ค” (รับบทโดย เอม – ภูมิภัทร ถาวรศิริ) สาวประเภทสองที่ในยุคสมัยนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม เขาโดนจับกุมลงโทษติดคุก ต้องเข้ามาอยู่ในทัณฑสถานวัยหนุ่ม เพียงเพราะคู่รักซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในห้องเช่า ทั้งที่ “ฟลุ๊ค” ไม่ได้ข้องเกี่ยวด้วย หลังจากนี้ทั้งสองจะต้องเผชิญกับความทุกขเวทนาทุกรูปแบบที่เหล่าคนคุกจะประเคนให้มิรู้จบ พวกเขามีทางเลือกแค่ 2 ทางคือ ยอมจำนน กับ ขัดขืด แต่ทางเลือกทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่ต้องผ่านความเจ็บปวดในทุก ๆ วัน ไม่ต่างอะไรกับตกนรกทั้งเป็น
จุดเด่น เพราะความเป็นหนังแนวเกาะติดชีวิตคนคุก อารมณ์ของความกดดัน และหดหู่ จึงมีมากกว่าหนัง 4 KING หลายเท่าตัว บทบาทของ “ณัฏฐ์” และ “เอม” ที่ต้องแสดงเป็น “เผือก” และ “ฟลุ๊ค” เป็ออะไรที่เล่นได้ยากมาก ๆ แต่เขาทั้งสองสามารถตีความและแสดงมันออกมาได้อย่างขั้นสุด ดูแล้วเกิดความสงสารจับใจ แล้วใครที่ยังไม่ดูหนังเรื่องนี้แต่ไปตีความว่า ก็แค่นำเสนอกลุ่มแก๊งในคุกตีกัน ซึ่งหากลองได้มาชมภาพยนตร์ก็จะเข้าใจปัญหาที่แท้จริงในสมัย 2544 ซึ่งยังไม่มีเทคโนโลยีกล้องวงจรปิดแบบดิจิทั ลเหมือนในโลกปัจจุบัน ยิ่งเรื่องกฎหมาย กฎระเบียบเกิดความหย่อนยาน มีเส้นสาย ส่งผลให้มีเรื่องนักโทษหรือผู้ต้องขังโดนล่วงละเมิดจนบาดเจ็บล้มตายไปหลายคน
แล้วหนังไม่ได้เน้นแค่เรื่องคนคุกตีกัน แต่กล้านำเสนอประเด็นปัญหาของคนคุกที่เกิดจาก “การละเลยหน้าที่ของผู้คุม” ที่จะนำไปสู่การแก่งแย่งชิงความเป็นใหญ่ในแดนคุก (หัวโจก หรือ พ่อบ้าน) ปัญหานักโทษทำร้ายกันจนบาดเจ็บ-เสียชีวิตที่ไม่ได้รับการดูแล ไปจนถึงปัญหาการข่มขืนนักโทษที่อ่อนแอ
จุดอ่อน จังหวะของหนังที่ดูหดหู่และค่อนข้างซีเรียสกับชีวิตที่ต้องโดนกระทำย่ำยี เป็นอะไรที่ไม่เหมาะกับคนจิตใจอ่อนไหว หรือมีอาการทางจิตเพราะเคยถูกบูลี่-ทำร้ายมาก่อน บางช่วงบางตอนอาจจิตตกไปเลยก็ได้
5/5 กะโหลก งานหนังไทยแนวดราม่าชีวิตหลังกำแพงที่ถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ซึ่งต้องทุกข์ทนกับความเจ็บปวดทุกรูปแบบ จนต้องขอแนะนำว่า อย่าได้กระทำอะไรผิดกฎหมายจนต้องเข้าไปในคกเหล่านี้เด็ดขาด…
คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เนรมิตรหนัง ฟิล์ม Neramitnung Film