การเมืองไทยในช่วงนี้คึกคักและมากด้วยเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวในแง่หลายมุม ไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีไปช่วยผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียงการเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี ซึ่งถึงขั้นเล่นบทบู๊ปราศรัยดุเดือดใส่ฝ่ายตรงข้าม ขณะที่ผลการแข่งขันในสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่นหลายจังหวัดถูกจับตาว่าจะส่งผลต่อการเมืองระดับชาติ รวมถึงการเดินหน้าของรัฐบาลยุค “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” ท่ามกลางคลื่นใต้น้ำความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล และต้องฟันฝ่ากระแสมวลชนฝ่ายต่อต้านเขย่าบัลลังก์ “คอลัมน์ตรวจการบ้าน ต้องมาสนทนากับ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตรัฐมนตรี อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตสส.พัทลุงหลายสมัย ถึงการส่องกล้องมองความเป็นไปและอนาคตของบ้านเมือง

              โดย “นิพิฏฐ์ มองภาพกว้างของการเมืองว่า รัฐบาลจะอยู่ครบวาระ 4 ปี ไม่มีนักการเมืองคนไหนที่อยากให้มีการเลือกตั้งเร็วๆ ยิ่งนักการเมืองในฝ่ายรัฐบาล ยิ่งอยากอยู่ยาว ผลประโยชน์ทั้งหลายมาจากการเป็นรัฐบาล ดังนั้น ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลยังแบ่งประโยชน์ลงตัว ก็จะประคองกันอยู่จนครบเทอม

ส่วนที่หลายคนมองว่า อาจจะล่มกลางทาง เพราะพรรคร่วมรัฐบาลก็มีหลายเรื่องที่เล่นเป็นเกมการเมืองกระทบกระทั่งกันน่าจะอยู่ไม่ครอบเทอม ผมว่า พวกเขาจะทะเลาะกัน เมื่อท้องเขาอิ่มแล้ว แต่ถ้าท้องยังไม่อิ่ม หรืออิ่มไม่พอ ก็ไม่ทะเลาะกัน ถ้าเขาเป็นรัฐบาลอยู่นาน เมื่อใดที่ท้องเขาก็เริ่มอิ่มขึ้น สะสมอาวุธมากขึ้น แบ่งผลประโยชน์ในเรื่องต่างๆลงตัวได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นเขาพร้อมจะต่อสู้กันด้วยการเลือกตั้ง กว่าจะถึงวันนั้นคงเป็นช่วงปลายของปีที่ 4 ของอายุรัฐบาลแล้ว แต่วันนี้เขายังไม่พร้อมกันหรอก

               หากมองในเรื่องอำนาจต่อรองทางการเมือง ขณะนี้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีเยอะมากจนทำให้พรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาล ยังไม่กล้าแตะอะไรมาก มิฉะนั้นจะทำให้“ภูมิใจไทย” อาจส่งสัญญาณไปที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในมือออกมาเบรกได้ แม้แต่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทยก็หมดหวังในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และไม่กล้าหักกับ “ภูมิใจไทย เพราะต้องใช้เสียงสว.ทำให้ผ่านได้

               แต่ยังมีจุดหนึ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลจะจับมือกัน และสามารถสกัดพรรคประชาชนได้ คือการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตราในประเด็นที่ให้ยกเลิกสส.ระบบบัญชีรายชื่อ มีแค่สส.ระบบเขต วิธีนี้ไม่ต้องทำประชามติ ผมเชื่อว่าภูมิใจไทยจะเอาด้วย เพราะสส.บัญชีรายชื่อไม่มีประโยชน์กับเขา แต่อดีตพรรคก้าวไกล หรือพรรคประชาชนในขณะนี้ จะเสียหายยับเยิน แทบสูญพันธุ์ เป็นพรรคที่ได้สส.บัญชีรายชื่อจำนวนมาก ส่วนเพื่อไทยคงอยากให้ตัด เพราะอาจทำให้เขาได้กลับมามีสส.มากเป็นอันดับ 1 ชนะพรรคประชาชน

               สำหรับกฎหมายนิรโทษกรรม พรรคร่วมรัฐบาลจะยังต่อรองกันว่า จะนิรโทษกรรมให้คดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  ด้วยหรือไม่ เพราะติดเรื่องที่ “คุณทักษิณ” มีคดีตามมาตรา 112 แต่ผมคิดว่าเขายังไม่รีบคุยกัน ถ้าเอามาคุยกันเร็ว ก็จะทะเลาะกันเร็ว

แต่ตอนนี้เขากำลังต่อรองเรื่องพาอดีตนายกฯ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับประเทศไทย ตามที่คุณทักษิณบอกว่าคุณยิ่งลักษณ์ จะกลับมาช่วงสงกรานต์ปี 2568 โดยเขาเตรียมการไว้แล้ว เริ่มจากการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ..2566 เป็นการบริหารโทษหลังจากศาลมีคำพิพากษา ไม่ต้องขอพระราชทานอภัยโทษ และคณะกรรมการที่มีอธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นประธาน น่าจะมีเสียงเป็นเอกฉันท์ให้คุณยิ่งลักษณ์ถูกคุมขังนอกเรือนจำ และรมว.ยุติธรรมสนิทสนมกับคุณยิ่งลักษณ์ด้วย

มองอย่างไรต่อคุณทักษิณที่ออกมามีบทบาทให้เป็นที่จับตาอีกครั้ง

คุณทักษิณเงียบหายไปช่วงหนึ่ง แต่ระยะหลังนี้กลับมามีบทบาท พูดจาท้าทาย แข็งกร้าว นี่คือนิสัยเดิมของเขา การพูดของคุณทักษิณมักสร้างศัตรู และมีคนที่ไม่ชอบเขาอยู่แล้ว เวลาคุณทักษิณพูดอะไรแรงๆ ออกมา ฝ่ายตรงข้ามจึงยิ่งโกรธมากขึ้น อย่างที่คุณทักษิณพูดเปรียบบางคนว่าเป็นเหมือนหมา เห็นอะไรก็เห่านั้น พูดแบบนี้ไม่ได้คะแนนเลย ยิ่งทำให้คนโกรธแค้น ไม่อย่างนั้นคุณสนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าจะนำคนออกมาลงถนนทำไม 

คุณทักษิณมาช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี และพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายชนะ จะทำให้คุณทักษิณยิ่งเฉิดฉายหรือไม่

ผมไม่คิดว่าคุณทักษิณจะเฉิดฉายได้เหมือนเดิม เพราะ จ.อุดรธานีเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดงอยู่แล้ว คุณทักษิณไปช่วยหาเสียง ก็ไปในฐานะอดีตหัวหน้าพรรค หรือเป็นผู้นำจิตวิญญาณ แต่ผู้ที่จะทำให้เกิดผลแพ้ชนะกันอย่างมีนัยสำคัญ คือนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย อย่างเช่นการแจกเงินหมื่นให้ประชาชน ถ้าทำแล้วเศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนมีความหวัง พรรคเพื่อไทยก็อาจได้รับเลือกอีก คุณทักษิณถ้าจะพูดอะไรที่ไปให้ความหวังเยอะๆ อาจถูกมองว่าแทรกแซงรัฐบาล จะทำให้ตัวเองมีปัญหาอีก

อย่างไรก็ตาม คุณทักษิณมีบทบาทเหนือนายกรัฐมนตรีได้ในฐานะพ่อของนายกฯ ทำให้คนเกรงใจ และตัวนายกฯยังไม่มีประสบการณ์มาก เมื่อมีเรื่องสำคัญ ก็ต้องถามคุณพ่อ แต่คุณทักษิณจะไม่อยู่เบื้องหลังตลอด จะต้องหาอีเวนต์ให้ได้ออกมาพูด มีตัวตนในสื่อหรือในสังคม เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเองในทางการเมือง

ฝ่ายที่เป็นโจทย์เก่าของคุณทักษิณเริ่มระดมมวลชนจะลงถนน คิดว่าการชุมนุมขับไล่รัฐบาลชุดนี้จะจุดติดได้หรือไม่

               ผมคิดว่ายาก คนที่จะไปแสดงพลังมากพอที่จะล้มรัฐบาลได้ ยังไม่มีจำนวนมากพอ และคนจำนวนมากมองว่ารัฐบาลยังเอื้อประโยชน์ให้พวกเขาได้ นอกจากนี้โลกเปลี่ยนไป คนยุคนี้ไม่มีเวลาจะมานอนกลางถนนปักหลักชุมนุมฟังปราศรัยหลายๆวัน แต่พวกเขาดูข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ ในสื่อโซเชียล แล้วเก็บไว้ไปแสดงออกในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง การต่อสู้ของประชาชนยุคใหม่จึงเป็นการต่อสู้ผ่านสื่อโซเชียล

โดยรวมถือว่าพรรคเพื่อไทยและตัวนายกฯ สบายใจได้หรือไม่ว่าอยู่ครบเทอมแน่ๆ

               เขาต้องอย่าพลาดในประเด็นเทคนิค อย่างเช่น อย่าปล่อยให้คุณทักษิณพูดอะไรที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายหรือเป็นการครอบงำ เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังตรวจสอบอยู่หลังจากรับคำร้องที่ว่าคุณทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ถ้ากกต.มีความเห็นว่าครอบงำ ก็จะส่งเรื่องสู่ศาลรัฐธรรมนูญ ตรงนี้น่ากลัว อีกทั้งยังมีคนจับตารัฐบาล และพร้อมนำไปยื่นร้องเรียนต่อองค์กรต่างๆได้ในอนาคต