คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่มี “นายกอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้แต่งตั้งให้ “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กลับมาดำรงตำแหน่ง “ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา” อีกครั้ง
คณะอนุกรรมการฯ ชุดนี้มี นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา เป็นรองประธานฯ ส่วนคณะอนุกรรมการฯ อีก 9 ท่าน ประกอบด้วย ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), ประธานสภามวยโลก มวยไทย, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วันแชมเปี้ยนชิพ, นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, นายสมชาย พูลสวัสดิ์, พล.อ.อรชัย บุญสุขจิตเสรี, นายไพฑูรย์ ชุติมากรกุล, นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และนางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ซึ่งทุกคนล้วนเป็นทีมงานมวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์ ชุดเดิม ที่จะมาสานงานต่อในปี 2568
“บิ๊กเอ” ยืนยันว่า การทำงานของคณะอนุกรรมการฯ ด้านกีฬา ยังคงจะเน้นเรื่องของ “มวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์” ซึ่งทำโครงการต่างๆ มาตั้งแต่ต้นปี 2567 มีเป้าหมายเพื่อต่อยอดทุกโครงการให้เกิดประโยชน์สูงขึ้นไปอีก
ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาองค์วามรู้กีฬามวยไทย, การเพิ่มจำนวนและประสิทธิ์ภาพของบุคคลในวงการมวยไทย, การแข่งขันมวยไทยเพื่อสร้างกระแสความตื่นตัวและเศรษฐกิจให้ประเทศ, การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์มวยไทยทั้งในปละต่างประเทศ, รับรองมาตราฐานมวยไทยเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ และกำกับติดตามและประเมินผล
โดยมีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในปี 2568 จะต้องมากกว่าปี 2567 คือ เกินกว่า 2,300 ล้านบาท
สำหรับในปี 2568 นั้นจะมีงบประมาณในการดำเนินงานโครงการต่างๆ จำนวน 643,000,000 บาท ไฮไลต์ของปีหน้านี้คือการทำโครงการมวยไทย FOR ALL (ฟอร์ ออลล์) ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปีที่แล้ว
โดยปีนี้จะมีครูมวยจำนวน 500 คน ที่จะเป็นครูมวยอยู่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งครูมวยเหล่านี้จะอยู่ในค่ายมวยต่างๆ แล้วจะเปิดสอนใครก็ได้ที่สนใจอยากเรียนมวยไทย โดยการเรียนการสอนจะแบ่งออกเป็นคาบเรียน มีทั้งหมด 25 คาบเรียน แต่ละคาบจะเรียนประมาณ 1 ชม. เมื่อเรียนจบจะได้ประกาศนีย์บัตร ซึ่งคาดว่าจะมีนักมวยไทยหน้าใหม่เกิดขึ้นประมาณ 100,000 คน
นอกจากนี้โครงการโรดโชว์ มาสเตอร์คลาส ที่นำนักมวยไทยชื่อดังไปเปิดสอนในต่างประเทศ พร้อมทั้งการขึ้นทะเบียนค่ายมวยในต่างประเทศ ซึ่งในปี 2567 ถือว่าประสบความสำเร็จ มีนักมวยชาวต่างชาติพาครอบครัวมาเรียนต่อและท่องเที่ยวในเมืองไทยจำนวนมาก เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น ที่สำคัญในปีหน้าจะเกิดการแข่งขัน “มวยไทยลีก” ขึ้นอีกด้วย ส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไรนั้น คณะอนุกรรมการฯ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะประชุมเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องนี้กันอีกครั้ง
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา นับหนึ่งโครงการ “มวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์” ไปแล้วในปี 2567 และจะสานงานต่อในปี 2568 โดยมี “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ เป็นหัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล
ทั้งนี้ก็เพื่อผลักดันให้ “กีฬามวยไทย” ศิลปประจำชาติของคนไทย ก้าวไกลไปสู่ระดับโลก ในทุกๆ มิติ อย่างแท้จริง
