อาจารย์คะขอคำแนะนำเกี่ยวกับ สัญญาเช่าซื้อรถยนต์แบบลิสซิ่งค่ะ
กรณีบริษัทฯ ได้ชำระครบสัญญาแล้ว และมีการซื้อรถคืนตามราคาที่มัดจำไว้ ซึ่ง ณ ตอนทำสัญญาเงินมัดจำได้ลงรวมเป็นราคาซื้อรถไปแล้ว โดยให้คงเหลือเป็นราคาซากไว้ และคิดค่าเสื่อมทางบัญชีตามราคาที่ทำสัญญาเช่าซื้อ โดยชำระงวดละ 36,000 บาท และใน ภ.ง.ด.50 จะบวกกลับหรือ หักเพิ่มโดยเปรียบเทียบค่าเสื่อมราคาทางบัญชี และ การชำระค่างวด
ขอสอบถามเมื่อบริษัทฯ ชำระครบตามสัญญา บริษัทฯ จะซื้อคืนตามสัญญาโดยหักจากเงินมัดจำ (ราคาซากตามบัญชี) เราต้องลงบัญชีอย่างไรคะ
กรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้น เมื่อบริษัทฯ ชำระครบตามสัญญา บริษัทฯ ซื้อคืนตามสัญญาโดยหักจากเงินมัดจำ (ราคาซากตามบัญชี)
ในทางหลักการบัญชี
บริษัทฯ ไม่ต้องบันทึกรายการทางบัญชีใด ๆ อีก เนื่องจากได้บันทึกรายการทางบัญชีไปหมดสิ้นเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว การดำเนินการทางบัญชีและทางภาษีอากรก็ยังคงใช้หลักการเดิมทุกประการ กล่าวคือ รายจ่ายทางบัญชีตามที่ได้บันทึกบัญชีไว้ ให้ปรับปรุงบวกกลับในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามแบบ ภ.ง.ด.50 (ถ้ามี) สำหรับรายการทางภาษีอากรดูตามข้อ 2
ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคล
สำหรับมูลค่ารถยนต์ที่บริษัทฯ ซื้อคืนตามสัญญาโดยหักจากเงินมัดจำ (ราคาซากตามบัญชี) ให้นำมาคำนวณค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา (ทางภาษีอากร) เพื่อใช้เป็นรายจ่ายที่หักเพิ่มทางภาษีอากร ในแบบ ภ.ง.ด.50 ทั้งนี้ เฉพาะมูลค่ารถยนต์นั่งในส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามมาตรา 65 ตรี (20) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527.
