“การที่จะวางความทุกข์ลงได้นั้น เราต้องเริ่มยอมรับความจริงที่เป็นไปได้ก่อน ว่าเรื่องได้เกิดขึ้นแล้ว เป็นไปแล้ว ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอก เมื่อมีผล มันก็ย่อมมีเหตุ”

เหตุสะเทือนขวัญนี้เกิดเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีการใช้อาวุธปืนรัวยิงใส่กันจำนวนหลายนัด มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดในชุมชนหลังฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง พบผู้บาดเจ็บ 2 ราย อาการสาหัส จึงเร่งปฐมพยาบาลและนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ หนึ่งในสองเป็นเด็กหญิงอายุ 8 ขวบ  ถูกยิงหลายนัดเข้าที่ลำตัว แต่ยังพอให้การได้ รวมถึงผู้ก่อเหตุซึ่งหลังก่อเหตุใช้ปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิตเพื่อหนีความผิด ส่วนเด็กหญิง 8 ขวบ ได้รับการรักษาตัวจนปลอดภัยแล้ว

นอกจากนั้นในที่เกิดเหตุยังพบว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอีก 3 ราย ประกอบด้วย นายวาสนา  อายุ 45 ปี นางสาวรัตตาภัค อายุ 43 ปี และ นางทองศรี  อายุ  69 ปี จากการตรวจสอบพบกองเลือดและปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกกระจายเกลื่อนพื้น พร้อมปืนกึ่งออโตเมติกขนาด 9 มม.  กระบอกและแม็กกาซีน 2 แม็ก 

หนึ่งในเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์และพยายามเข้าไปช่วยเหลือ เล่าว่า ตนเองเห็นชายผู้ก่อเหตุ เดินถือปืนมายิงใส่ผู้ชายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน จากนั้นก็หันไปยิงใส่คุณยายและเด็ก ที่นั่งอยู่ใกล้ที่หน้าบ้าน แล้วเปิดประตูไปรัวยิงคนในบ้านอีกหลายนัด

จากนั้นจึงออกมายิงตัวเองที่หน้าบ้านจนล้มลง ไม่นานนักก็พบว่ามีเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ที่ถูกยิงนั้นพยายามคลานหนีตายออกมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งตอนนั้นตนเองพยายามเข้าไปช่วยแต่ถูกหลายคนห้ามไว้เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย  โดยมีข้อมูลผู้ก่อเหตุมีอาชีพให้เช่าบ้านและปล่อยเงินกู้ ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มสุราจนมีอาการมึนเมา

ด้านลูกชายของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า บิดากับครอบครัวที่ถูกยิงนั้นเป็นเพื่อนบ้านสนิทกัน และมักมานั่งดื่มเหล้าด้วยกันเป็นประจำ แต่มาช่วงหลัง 3-4 วันที่ผ่านมา ทราบว่าบิดามีเรื่องผิดใจและทะเลาะกับภรรยาของผู้ตาย แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร จนกระทั่งบิดามาก่อเหตุขึ้น

สอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายอภิสิทธิ์  อายุ 64 ปี นางสาวรัตนาภัค อายุ 43 ปี ที่ถูกยิงตาย ส่วน นางทองศรี อายุ 69 ปี นั้นเป็นมารดาของ นางสาวรัตนาภัค  ในขณะที่ นายวาสนา เป็นอดีตสามีของ นางสาวรัตนาภัค ซึ่งเคยเลิกรากันไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังวนเวียนมาหาสู่กับ นางสาวรัตนาภัค บ่อยครั้ง

ส่วนเด็กหญิง วัย 8 ขวบนั้นเป็นบุตรสาวของ นางสาวรัตนาภัค  โดยครอบครัวของ นายอภิทธิ์ ผู้ก่อเหตุ ได้พักอาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันที่บ้านหลังเกิดเหตุ  และผู้ก่อเหตุก็มีอาชีพปล่อยเงินกู้มา 30 ปีแล้ว ผู้ก่อเหตุ มีบ้านอยู่ใกล้เคียงกับคนตาย ไปมาหาสู่กับคนตายตลอด

แม้จะเลิกกันไปนานแล้ว แต่ นายวาสนา ก็ยังไปมาหาสู่กันกับครอบครัวอดีตเมียเป็นประจำ และมานั่งดื่มกินอยู่ที่นี่เป็นประจำ พอมาวันนี้ ผู้ก่อเหตุไปดื่มสุราที่บ้านกำนัน จนกลับมาเจอกับกลุ่มผู้ตายนั่งกันอยู่หน้าบ้าน  จึงชักปืนที่เตรียมมากระหน่ำยิงใส่ นายวาสนา ก่อน จากนั้นหันไปยิงแม่ยายและลูกติดนางรัตนาภัค

ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนมากกว่า 10 นัด ซึ่งเป็นการยิงคนในบ้าน โดยลูกชายคนโตไม่อยู่บ้าน ทำให้รอดตายมาได้ สำหรับนิสัยของผู้ก่อเหตุพบว่าเป็นคนใจร้อนนิดหน่อย แต่ไม่เคยทำอะไรรุนแรง ส่วนประเด็นเรื่องเงินพบว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่เคยมาหยิบยืมเงินใคร บ้านหลังนี้ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ส่วนบ้านผู้ก่อเหตุเองก็อยู่ถัดจากนี้ไปไม่กี่ซอย ตัวผู้ก่อเหตุเองพักอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว

กระทั่ง พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้สอบสวนจนทราบเรื่องราวทั้งหมดว่า ปมสังหารในครั้งนี้มาจากเรื่อง “ชู้สาว” เนื่องจากว่าครอบครัวของผู้ที่ถูกยิงนั้น มาขออาศัยเช่าบ้านของ นายอภิสิทธิ์ ซึ่งครอบครัวนี้มีทั้งหมด 5 คน คือ พ่อ แม่ ยาย และลูกชายลูกสาว

โดยช่วงหลังฝ่ายของ นายอภิสิทธิ์ มาติดพันฉันชู้สาวกับ น.ส.รัตนาภัค จนมีการส่งเสียเลี้ยงดูกัน ต่อมา นายอภิสิทธิ์ ได้ขออยู่กินกับ น.ส.รัตนาภัค แบบเปิดเผยแต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม จึงอาจทำให้ นายอภิสิทธิ์ ไม่พอใจคิดว่าตัวเองถูกหลอกให้รักจึงวางแผนสังหาร โดยมีการดื่มเหล้าย้อมใจ ก่อนจะใช้ปืนที่เตรียมมานั้นก่อเหตุดังกล่าว

เป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญและน่าสลดหดหู่ใจอีกหนึ่งคดี นับวันความความรุนแรงจาก “คดีชู้สาว” เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก แถมยังต่อเนื่องไม่หยุด สุดท้ายแล้วความรักลักษณะนี้ก็ไม่มีใครได้ใครไปครอบครอง หลงเหลือไว้แต่เพียงความสูญเสียและคราบน้ำตา.

ข่าวสารตำรวจ

รักษาความปลอดภัย
พ.ต.ท.เอกภพ เถาว์โมลา รองผกก. ป.สภ.บ่อทอง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย ดาบตำรวจสมชาย จันสีมา หัวหน้าสายตรวจตำบลวัดสุวรรณ ผู้บังหมู่ป้องกันและปราบปราม สภ.บ่อทอง และผู้ใต้บังคับบัญชา ร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยในงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2567 ที่วัดทุ่งศาลา ม.3 ต.วัดสุวรรณ โดยมี นายวิเชฐษ์ แจ่มแจ้ง นายก อบต.วัดสุวรรณ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา พนักงาน เจ้าหน้าที่ ร่วมจัดงาน ซึ่งมีประชาชนมาเที่ยวชมงานจำนวนมาก มีพ่อค้าแม่ค้า นำอาหารและสินค้ามาจำหน่ายสร้างรายได้ให้ชุมชน ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

ที่พึ่งพาของประชาชน
พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ จว.ขอนแก่น สั่งการให้ ดต.อาคม วรรณสัมพันธ์ผบ.หมู่ (สส.) สภ.ชุมแพ ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร นำรถยนต์สายตรวจ ออกพ่วงแบตเตอรี่ช่วยเหลือประชาชน หลังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือว่ารถยนต์สตาร์ทไม่ติด บริเวณในซอยสุนา 1 บ้านสันติสุข จนทำให้ประชาชนสามารถเดินทางต่อไปได้ ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจในการช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

******************************************

คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป