แม้ยังไม่นิ่งว่า ใครจะลงชิงชัยในตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในเดือนมีนาคม 2568 แต่ก็ค่อนข้างชัดเจนว่า จะมีใครบ้าง และแต่ละคนมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน

ได้ข่าวว่า “วงใน” กำลังวิ่งกันขาขวิด

เหตุผลหลักที่ทุกคนยังนิ่ง ไม่ออกมาเปิดตัวให้ชัดเจน เป็นเพราะ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ยังไม่ได้ฟันธงชัดเจนว่า จะลงชิงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันหรือไม่

แน่นอนว่า เราอาจเห็นความพยายาม และสัญญาณที่ชัดเจนจากฝั่ง “บิ๊กป้อม” ว่า “เอาอยู่” แต่ตัวท่านเอง และทีมงานก็คงต้องประเมินด้วยว่า ถ้าลงแล้วจะได้หรือไม่?

ถ้าลงแล้วแพ้แบบขาดลอยเหมือนตอนเลือกนายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯจะเป็นอย่างไร จะเสียหายอีกแค่ไหน และจะไปทำลายบารมีที่สะสมมาทั้งชีวิตหรือไม่

หาก พล.อ.ประวิตร ลงชิงด้วยจริง เชื่อว่า พล.อ.เดชา เหมกระศรี คงยอมเปิดทาง เพราะ “เสธ.หมึก” เคยออกตัวแล้วว่า ความพร้อมสู้คนอื่นไม่ แถม “พี่ป้อม” ยังเคยเป็นนายเก่า ส่วนตัวเองขอเป็นแค่ทีมงาน คอยช่วยเหลือใครก็ได้ ที่อยากให้ช่วยงานมากกว่า

เช่นเดียวกับ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ “พี่ป้อม” และทำงานร่วมกันมานาน ก็คงยอมหลีกทาง ไม่ลงชิงชัย จึงเหลือเพียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิมล ศรีวิกรม์ ที่เป็นผู้ท้าชิง

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ถือว่าน่าเสียดาย เพราะเห็นอยู่ว่าใครจะชนะ แนวโน้มตอนนี้ เทไปทาง “บิ๊กเอ” เกือบหมด แถมมีแรงหนุนด้านการเมือง และมี “ตัวช่วย” ชั้นดี คอยวิ่งประสานฝ่ายต่างๆให้ด้วย

แต่ถ้า “บิ๊กป้อม” ไม่ลง คุณหญิงปัทมา ก็คงจะพร้อมลงชิงตำแหน่งประมุขบ้านอัมพวันครั้งนี้ด้วย และมันจะน่าสนใจขึ้นมาทันที เพราะความรู้ ความสามารถ อำนาจ บารมี สูสี พอฟัดพอเหวี่ยงกัน

หลายคนอาจไม่รู้ว่า ความจริงแล้ว คุณหญิงปัทมา เคยถูกทาบทามให้ลงชิงตำแหน่ง “ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล” หรือ ไอโอซี แทนที่ของ โธมัส บาค ซึ่งจะเลือกกัน ที่กรีซ ในเดือนม.ค. 68

แต่เนื่องด้วย “ประธานไอโอซี” มีวาระนานถึง 8 ปี แถมต่อได้อีก 4 ปี รวมเป็น 12 ปี และถ้าหากได้เป็นขึ้นมา ต้องทำงานในต่างประเทศเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงอาจไม่มีเวลามาพัฒนาวงการกีฬาไทยมากเท่าที่ควร ทำให้คุณหญิงปัทมาตัดสินใจตอบปฏิเสธไป

ถูกต้องที่ ต่อให้ลงชิงประธานไอโอซี ก็ไม่มีใครการันตีว่า คุณหญิงปัทมา จะได้รับเลือก แต่การถูกทาบทามให้ลงสมัคร ก็น่าจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถ และการยอมรับในระดับนานาชาติได้เป็นอย่างดี

และเอาจริงๆ แค่สถานะ “ไอโอซี เมมเบอร์” ที่คุณหญิงปัทมาเป็นอยู่ ก็ช่วยผลักดันวงการกีฬาไทย และทำให้เรามีหน้ามีตาในเวทีโลกมากขึ้นเยอะแล้ว

บวกกับการคร่ำหวอดอยู่ในวงการกีฬาบ้านเรามานาน ประสานได้ทุกฝ่าย ทุกสมาคม ทุกหน่วงงานกีฬา สามารถเข้าถึงได้หมด และเป็นคนคอยอยู่เบื้องหลัง ช่วยเหลือดูแลในการจัดงานใหญ่ๆมากมาย

จึงเป็นอีกหนึ่งแคนดิเดตที่มีความเหมาะสมทุกประการ และถ้าหากได้ลงชิงตำแหน่งจริง ก็น่าจะลุ้นสนุก สูสี ชนิดออกหน้าไหนก็ได้เลยทีเดียว

คิดแล้วก็ถือเป็นโชคดีของวงการกีฬาบ้านเรา ที่มีบุคคลมากความสามารถ และคุณสมบัติเพียบพร้อม อยากจะเข้ามาทำงาน พร้อมกันหลายคน ดังนั้น ไม่ว่าใครเข้ามาก็เชื่อว่าจะผลักดันวงการกีฬาบ้านเราได้ดีขึ้นได้แน่

ขอแค่ให้มีการเปลี่ยนแปลงและมีโอกาสได้เข้ามาจริงๆก็แล้วกัน.