@เป็นช่วงเวลาที่”นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร อยู่ระหว่างการ”ทัวร์ต่างประเทศ” เข้าร่วมประชุมใน โครงการต่างๆ เริ่มจากเรื่อง”แผนการร่วมมือเศรษฐกิจในอนุภาคแม่น้ำโขง”ที่”นครคุณหมิง” มณฑลยูนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน” ซึ่งเรื่องของ” แม่น้ำโขง” เป็นเรื่องสำคัญ สำหรับประเทศไทย เพราะไม่มีเรื่องของ”เศรษฐกิจ” ของการ”พัฒนา” เพียงอย่างเดียว แต่วันนี้เรื่องของ”แม่น้ำโขง” เป็นเรื่องของ”การเมือง” ที่มี”สหรัฐอเมริกา” และ”สาธารณรัฐประชาชนจีน” เข้ามา”เกี่ยวข้อง” และ”แย่งชิง” โดยใช้” แม่น้ำโขง” และ”มวลชน”ที่อยู่ในฝั่ง”แม่น้ำโขง” เป็น “เครื่องมือ” ซึ่งเป็นเรื่องที่”ประเทศไทย” ใน”ฐานะ” ที่ต้อง”คบค้า” กับ”มหาอำนาจ” ทั้งสองประเทศต้อง”วางตัว” ในการสร้างความ”สมดุลทางการเมือง” ให้เป็น….ส่วนเรื่อง”การเมือง” ภายในประเทศ เมื่อ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ จึงเป็นหน้าที่ของ”รัฐมนโท” อย่าง”ทักษิณ ชินวัตร” ผู้เป็น”ตัวพ่อ” ที่ต้องออกมาให้”สัมภาษณ์” เพราะกลัว”การเมือง”จะ”เงียบเหงา” ทั้งในเรื่องการไป”หาเสียง” ให้ผู้สมัคร”อบจ.อุดรธานี ที่”เจ้าตัวปฏิเสธ” ว่าไม่ได้ไป”หาเสียง”แต่ไป”พบปะ” พี่น้องประชาชนชาวอุดรฯ ในขณะที่”พลพรรค”ที่”แวดล้อม” ก็ออกมา”ตะเบ็งเสียง”ว่าการไป”หาเสียง” ช่วย”ผู้สมัครนายกอบจ.ที่ อุดรธานี” ไม่ได้เป็นการ”ครอบงำพรรค” ก็ว่ากันไปแต่เชื่อว่าเรื่องการไป”ช่วยหาเสียง” ให้ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี ครั้งนี้ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ต้องมี”นักร้อง” ยื่นเรื่องต่อ”กกต. ในข้อหา”ครองงำ”พรรคการเมืองอย่าง แน่นอน…..

@ที่เห็น”ชัดเจน” คือ”การเมือง” ณ วันนี้ของ”ประเทศไทย” กำลัง”ถอยหลังเข้าคลอง” อีกครั้ง เป็น”การเมืองบ้านใหญ่” ที่อาศัย”ผู้กว้างขวาง” ผู้มี”อิทธิพล” บวกกับ”กระสุน” ในการให้ได้มาซึ่ง”ตำแหน่ง” และ”อำนาจ” มีการสร้าง”เครือข่าย” ของ”การเมืองท้องถิ่น” ตั้งแต่ “อบจ,เทศบาล” และ” อบต.” เพื่อไว้เป็น”ฐานการเมือง” หรือ”ฐานคะแนนเสียง” เพื่อการ”สนับสนุน” การเลือกตั้ง”ระดับประเทศ” หรือ” ผู้แทนราษฎร” ที่เป็น”เครือข่าย” ของคนใน”ครอบครัว” เดียวกัน ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต ที่ย้อนกลับมาใหม่ ในวันที่”ทักษิณ ชินวัตร”กลับประเทศ และมี”บทบาท”ใน”พรรคเพื่อไทย” และ”บทบาททาง”การเมือง”…..ส่วน”นายกน้อย” อย่าง”เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ เสนาบดีกระทรวงกลาโหม เวลานี้ก็ต้อง” วุ่นวาย” อยู่กับเรื่องของ”เกาะกูด” จ.ตราด ที่เป็น”ประเด็นร้อน” เพราะ”คนส่วนหนึ่ง” ของประเทศนี้ อยู่ในความ”หวาดระแวง”การทำหน้าที่ของ”พรรคเพื่อไทย” และ”หวาดระแวง” กลัวว่า”ทักษิณ ชินวัตร”ซึ่งมีความ”สัมพันธ์ส่วนตัวที่แนบแน่น” กับ”ครอบครัวของฮุนเซ็น” จะมี”ผลประโยชน์” ที่”ทับซ้อน” ในการ”เจรจา”เรื่อง”พื้นที่ทับซ้อน” และเรื่องของ”ทรัพยากร”ใน”ใต้ทะเล” นี่เป็นเรื่องที่”ห้ามกันไม่ได้” และเป็น”หน้าที่”ของ” เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย” ที่ต้อง”พูดความจริง” และมี”กระบวนการ” ในการ”เจรจา” กับ”ประเทศกัมพูชา ในเรื่องของพื้นที่”ไหล่ทวีป” ที่”ทับซ้อน”กันอยู่ อย่าให้เกิดความ”ได้เปรียบเสียเปรียบ” เกิดขึ้น โดยเฉพาะ”เอ็มโอยู 44” ถ้าเห็นว่าเป็น”ตัวปัญหา” ก็ต้องหาทาง”ยกเลิก” เพราะ “เอ็มโอยู” เป็นเพียง”บันทึกช่วยจำ” ทำไมจะ”ยกเลิกไม่ได้” การที่บอกว่า”เอ็มโอยู” ยกเลิกไม่ได้ จึงกลายเป็นอีก”เงื่อนไข” ที่สร้างความ”หวาดระแวง” ให้กับคน”ส่วนหนึ่ง” ที่”เห็นต่าง” ใช้ในการ”โจมตี” พรรคเพื่อไทย และ” นายกอิ๊งค์”…..

@เรื่องของ”เศรษฐกิจ” ที่มีแต่”ข่าวร้าย” การ”ประกาศปิดตัว” ของ”โรงงานอุตสาหกรรม” หลายแห่งใน”ภาคตะวันออก” ในปลายปีนี้ ที่ต้องทำให้จำนวน”คนตกงานเพิ่มขึ้น” ซึ่งค่าจะเป็นไปตามความ”คาดหมาย” ของ” “นักลงทุน”และผู้ที่อยู่ใน”แวดวงการค้าการขาย” ที่”พยากรณ์”ว่า ปี 2568 จะเป็นปีที่”เศรษฐกิจ” จะ”ทรุดหนัก” กว่าปี 2567 ที่เหลืออีก 1 เดือนเศษ ก็กำลังจะผ่านไป การ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” ของ”รัฐบาลเพื่อไทย” นอกจากการ”แจกเงิน” กลุ่ม”เปราะบาง” คนละ 10,000 บาท ที่ สุดท้าย ไม่ได้”ส่งผล” ในการ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” อย่างที่”รัฐบาล” แถลงไว้ ก็ยังไม่เห็น”แผนสอง” และ”แผนสาม” ในการที่จะ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” แบบการ”ให้เลือด” เพื่อการ”คืนชีพ”ของคนที่”ใกล้ตาย” แต่อย่างใด ดังนั้น”เพื่อไทย”ในการ”ขับเคลื่อน”ของ” นายกอิ๊งค์” ในวันนี้ จึงต่างกับ”เพื่อไทย”ในการ”ขับเคลื่อน”ของ”ทักษิณ ชินวัตร” เมื่อ 17 ปีก่อน อย่าง สิ้นเชิง นโยบายที่”ทักษิณ ชินวัตร” และ”ทีมงานเศรษฐกิจ” ที่เคยใช้ในการ”ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ได้ผล ก็ใช้ไม่ได้กับโลกยุคนี้ ที่เป็น”โลกยุคใหม่” ที่ต้องใช้”ทีมเศรษฐกิจยุคใหม่”ในการเป็นที่”ปรึกษา” และทำหน้าที่ช่วย”ขับเคลื่อน” เรื่องนี้ก็เป็น”จุดอ่อน” ของ”รัฐบาลผสม” ที่มี”พรรคเพื่อไทย” เป็น”แกนนำ”….

@หลังจากที่ปล่อยให้”ผู้บริโภคเดือดร้อนทั้งแผ่นดิน” จากการ”ขึ้นราคาน้ำมันปาล์ม” วันนี้”พิชัย นริพทะพันธ์” เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์” จึง”ได้ฤกษ์” สั่งการ และ ลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อหา”สาเหตุ” ของ”น้ำมันปาล์ม”ที่มีการ”ขึ้นราคา” โดย”แถลงข่าว” ว่า จะแก้ปัญหาในต้นปี 2568 ก็ เป็นการ”บอกใบ้” ให้กับผู้”บริโภค” ได้รับรู้ว่า ต้อง”ควักเงิน” ซื้อ”ของแพง” อีก 2 เดือน ทั้งหมดเป็นการบอกว่า”กระทรวงพาณิชย์” ไม่สามารถ”บังคับ” ให้”โรงงานผู้ผลิต” และ”ผู้จำหน่าย” ลดราคา”ขายปลีก”ตามราคาเดิม เพราะประเทศนี้” นายทุน” อยู่เหนือ”อำนาจรัฐ” และ”เสนาบดี” ก็มี”หน้าที่” ในการ”แก้ต่าง” ให้กับ”นายทุน” ส่วนเรื่อง “ลงพื้นที่เพื่อดูข้อเท็จจริง” เรื่อง”น้ำมันปาล์มขึ้นราคา” ก็ไม่”จำเป็น” เพราะ”ข้อเท็จจริง” ที่ “นายทุน” เจ้าของ”โรงงานผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม” นำมาเป็น”ข้ออ้าง” ในการขึ้น”ราคา” คือ” ผลปาล์มสด” ที่มีราคาแพง ถึงกิโลกรัมละ 9.50 บาท ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตั้งแต่มีการ”ปลูกปาล์มน้ำมัน” ใน”ประเทศไทย” ที่มีการ”ตั้งข้อสงสัย” คือ” ราคาปาล์ม กิโลละ 9.50 บาท เพิ่งขึ้นได้ไม่กี่วัน ทำไมผู้”ผลิตน้ำมันปาล์ม” จึง”ฉวยโอกาสขึ้นราคา” ทั้งที่”น้ำมันปาล์ม” ที่วางขายอยู่เป็น”ของเก่า” ที่ผลิตไว้ก่อนหน้าที่”ราคาปาล์มสด” จะมีราคาแพง นี่เป็นเรื่อง”ฉวยโอกาส” หรือไม่ ประเด็นนี้ต่างหาก ที่”เสนาบดี” ต้อง”ใส่ใจ” และ”ควบคุม”…..

@ก็เห็นด้วยนะกับ”พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และ”เสนาบดีกระทรวงพลังงาน” ที่เรียกประชุม”คณะกรรมการบริการนโยบายพลังงาน” ( กบง.) เป็นการด่วน เพื่อแก้ปัญหาราคาของ”โบโอดีเซลบี100” ที่มาจาก”ปาล์มน้ำมัน” ซึ่งขึ้นราคาไปแล้วลิตรละ 48 บาท เป็น สองเท่า ของ เนื้อน้ำมันดีเซล ซึ่งหากยังใช้”ใบโอดีเซล” เป็น”ส่วนผสม”ของ”น้ำมันดีเซล” อย่างที่”เป็นอยู่” ก็ทำยิ่งทำให้”ราคาน้ำมันดีเซล” ต้องมีการ”ปรับราคาแพงขึ้น” ก็ต้องติดตามดูว่า” กบง.” จะ”ดำเนินการ”อย่างไร จะ ลดส่วนผสมของ”ไบโอดีเซล” ใน”น้ำมันดีเซล” ได้หรือไม่ และหากมีการลด ผู้ผลิต”ไบโอดีเซล” จะออกมา”โวยวาย” หรือไม่ นี้คือเรื่องของ”พลังงาน” ที่มี”เงื่อนปม”ในการ”ผูกมัด” กับ โน่น นี่ นั้น จน”ยุ่งเหยิง” ยากยิ่งในการแก้ปัญหา ให้”คนไทย” สามารถใช้” พลังงาน” ในราคาถูก…..

@เรื่องของ”ตากใบ” ที่เป็น”ประเด็นร้อน” ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” เริ่มที่จะลด”ความร้อนแรง” ลงได้เพียงไม่กี่วัน ก็มีเหตุที่”คนร้าย” บุกเข้า”ปลิดชีพ” นายกอาร์ม” วิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม” นายกเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส อย่าง”อุกอาจ” ในโรงงาน”ผลิตเสื้อ”ของตนเอง “คนร้าย” ใช้”อาวุธปืนสงคราม” บุกเข้า”สังหาร” ใน”ห้องประชุม”ถึง 18 นัด เป็นการ”สังหาร” ที่”โหดเหี้ยม” ที่สำคัญ “นายกอาร์ม” ”คนดี”ของ”สังคม” ที่เป็นผู้สร้างผลงาน ทั้งในเรื่อง”การเมืองท้องถิ่น” และ”การศึกษา” เรื่องของ”กีฬา” เป็น”นายกสมาคมกีฬาจังหวัดนราธิวาส” ที่ ทำหน้าที่อย่าง”ทุ่มเท” และ โรงงาน”ผลิตเสื้อ” ก็เป็น “โรงงาน” ที่”สร้างงาน สร้างเงิน” ให้กับ”คนในท้องถิ่น” การ”สูญเสีย” นักการเมืองท้องถิ่น” อย่าง”นายกอาร์ม” จึงเป็นการ”สูญเสียคนดี” ที่ทุกคน”ใจหาย”…..

@ประเด็นสำคัญ สำหรับ “พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี” ผบช. ภาค 9 และ “พล.ต.ต. ไมตรี สันตยานุกุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส คือการ”คลี่คลายคดี” ต้องหาสาเหตุการ”ปลิดชีพ” ของ”นายกอาร์ม” ครั้งนี้ว่ามาจากสาเหตุอะไร เป็นเรื่อง”การเมือง” หรือเรื่อง”ความมั่นคง” เพราะเป็นไปได้ทั้งสองเรื่อง”การเมือง” แม้ว่า”นายกอาร์ม” จะประกาศ ไม่ลงสมัครเป็น”นายกเทศบาลรือเสาะ” ใน สมัยหน้า ที่จะมีการเลือกตั้งในกลางปี 2568 ก็จริง แต่”นายกอาร์ม” ประกาศที่จะส่ง”รองนายก” ในทีมของตนเองลง”รับไม้ต่อ” โดยตนจะเป็นผู้ที่”สนับสนุน” ดังนั้นในทางคดี ถ้าเป็นเรื่อง”การเมืองท้องถิ่น” ต้อง”สืบสวนสอบสวน” ว่า”คู่แข่ง”ของ”รองนายกอาร์ม” คือใคร และผู้ที่ให้การ”สนับสนุน”เป็นใคร เข้าถึง” แกนนำ” ของ”บีอาร์เอ็น”หรือ”กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น” ในพื้นที่หรือไม่ เพราะความ”ขัดแย้งทางการเมือง” ใน สามจังหวัดและสี่อำเภอของจังหวัดสงขลา” มักจะ”ลงเอย” ด้วยการใช้ปืน”กองกลาง” ที่”บีอาร์เอ็น” ใช้ในการ”สังหารเหยื่อ” และการ”เข้าถึง” กองกำลังติดอาวุธ” ในพื้นที่ ให้เป็น”มือปืน” ในการ”สังหารเหยื่อ” เพื่อ”เบี่ยงประเด็น” ให้”ตำรวจสรุปสำนวน” ว่าเป็นเรื่องของ”ความมั่นคง” เช่นเดียวกับคดี”สังหารนายกอาร์ม” ที่”ปลอกกระสุน” ซึ่งตกในที่เกิดเหตุ จำนวน 19 ปลอก มีการ”พิสูจน์” จาก”กองพิสูจน์หลักฐาน 10” ชัดเจนแล้วว่าเป็น”อาวุธปืนสงคราม” ที่มีการใช้”ก่อเหตุ” ปลิดชีพ” เจ้าหน้าที่รัฐ” ในพื้นที่ จ.นราธิวาสมาแล้ว 23 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 24 ก็ ขอให้”ฝ่านสืบสวนสอบสวน” อย่าได้”หลงประเด็น”เชื่อเรื่อง”พยานวัตถุ” เพียงอย่างเดียว แล้วสรุปว่าการ”สังหารนายกอาร์ม” เป็นเรื่องของ”ความมั่นคง”……

@แต่ ถ้ามี”หลักฐาน” ว่าการ”สังหารนายกอาร์ม” มาจากเรื่อง”ความมั่นคง” เพราะ”บีอาร์เอ็น” ต้องการ”กำจัด” คน”ไทยพุทธ” ไม่ให้เป็น”ผู้นำท้องถิ่น” และต้องการให้”ผู้นำท้องถิ่น” เป็นคนของ”บีอาร์เอ็น” ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่”น่ากังวล” ว่าพื้นที่ของ”ไทยพุทธ” นับวันจะ”หดแคบ” และจะต้อง”อพยพ” ออกจาก” พื้นที่มากขึ้น วันนี้ จ.นราธิวาส มีพื้นที่ซึ่งมี”ไทยพุทธ” เป็น”ผู้นำท้องถิ่น” เหลือเพียง 2-3 แห่ง เท่านั้น และ เชื่อว่าหลังสิ้น” นายกอาร์ม” คน”ไทยพุทธ” ส่วนหนึ่งใน”รือเสาะ” ก็จะ”อยู่ไม่ได้ เรื่องนี้เป็น”หน้าที่”ของ” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 “ ที่ต้องส่ง”เจ้าหน้าที่” เข้าใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส” เพื่อลด”อิทธิพล” ของ” บีอาร์เอ็น” ให้ได้โดยเร็ว ที่สำคัญมีคน”บอกใบ้” ให้รู้ว่า”ผู้สั่งการสั่งตายนายกอาร์ม” เป็น”คนโต” ในพื้นที่ “บ้านยาแลเบาะ” และ”มือปืน” ก็อยู่ในพื้นที่”บ้านยาแลเบาะ”ที่อีกประเด็น” สายโจร” ในวันที่เกิดเหตุอยู่ใน”โรงงานผลิตเสื้อ” ถ้า” ตำรวจ” ใช้การ”ยึดโทรศัพท์” ของคนที่อยู่ในโรงงานมา”ตรวจสอบ” ก็จะรู้ได้ว่ามี”คนงาน” คนไหนเป็น”สายโจร” โทรไปแจ้งให้”มือปืน” ทราบว่า”นายกอาร์ม” อยู่ในโรงงานการ”คลีคลายคดี” ต้องใช้”เทคโนโลยี” สมัย ใหม่เข้าช่วย และคดีนี้ถ้า”ตำรวจ” จับ”มือปืน” และ”ผู้บงการ”ไม่ได้ ต้องมีการย้าย” ทั้ง” ผู้บัญชาการภาค 9 “ และ” ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส” ส่วน”ผกก.สภ.รือเสาะ” ซึ่งเป็น ท้องที่เกิดเหตุ ก็ต้อง”ตรวจสอบ” ข้อ”บกพร่อง” ของ”จุดตรวจ จุดสกัด” ในพื้นที่ด้วยว่ามีความ”บกพร่อง” อย่างไร จึงปล่อยให้”คนร้าย”ปฏิบัติการได้อย่าง”เสรี” และ”หลบหนี” อย่าง”ลอยนวล” ในขณะที่”ครอบครัว”ของ”นายกอาร์ม” ฝากความหวังในการ”จับคนร้าย” ไว้กับ” ว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม” ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และ หวังว่าการ”รับปาก” ไม่เป็นเพียง”ลมปาก” เพื่อ”ปลอมใจ” แต่ต้องทำได้จริง…..

@ส่วนที่คนใน”สังคมคาใจ” คือ”บทบาท”ของ”เอ็นจีโอ”ของ”ภาคประชาสังคม” และของ”กลุ่มสิทธิมนุษย์ชน” ใน “จังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่”เงียบกริบ” กับการ”เสียชีวิต”ของคนดีๆของสังคมที่มีแต่ให้อย่าง”นายกอาร์ม” ไม่เหมือกับการตายของ”กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น” ที่ถูก”เจ้าหน้าที่วิสามัญ” ที่”กลุ่มคนเหล่านี้” จะออกมา”เคลื่อนไหว” เพื่อ”แสดงความเห็นใจ” นี้คือสิ่งที่”คนในพื้นที่” มองเห็นถึง”ความต่าง” ภายในสังคมของ “จังหวัดชายแดนภาคใต้”ที่เห็นได้อย่าง”เด่นชัด”…..เดือน ตุลาคม ที่ผ่านมา “เจ้าหน้าที่รัฐ อย่างน้อย 2 ราย ถูก” กองกำลังติดอาวุธ”ของ”บีอาร์เอ็น “ ทำการ”ซุ่มยิง” เสียชีวิต 2 ราย ส่วนอีกราย”ยิงต่อสู้” จึงเพียงได้รับ”บาดเจ็บ” วันนี้ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” จึงทำได้เพียงการ”แจ้งเตือน” ให้”กำลังพล” ที่เดินทางจาก”ที่พัก” เพื่อไป”ละหมาด” หรือเดินทางจาก”ที่พัก” เพื่อ”กลับบ้าน” เพิ่มความ”ระวัดระวังตัว” เพราะการ”ซุ่มโจมตี” เจ้าหน้าที่ ฯที่ไป”ละหมาด” และ”กลับบ้าน” เป็น”ยุทธวิธีหนึ่ง” ของ” แนวร่วม” ที่ได้ผล และต้อง “ปฏิบัติการ” ต่อไป เมื่อการ”แยกปลาออกจากน้ำ” ทำไม่ได้ผล เมื่องาน”การข่าว” ยัง”ล้มเหลว” วิธีการ”สุดท้าย”คือ” อัตตาหิ อัตตะโนนาโถ” ตนนั่นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน” เอวัง ก็มีด้วย”ปะการะฉะนี้”นะ โยม…..

@วันก่อน”ศาลจังหวัด นาทวี “ ตัดสินจำคุก”อัชมัน เปาะเลาะ” ซึ่งเป็น”มือปฏิบัติการ” ในการ”ซุ่มโจมตี” และ”วางระเบิดแสวงเครื่อง” ฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐ” ใน จ.สงขลา ซึ่งมีหมายจับ รวม 18 คดี โดย “พิพากษาจำคุก” 4 ปี 16 เดือน มีการ “ไถ่ถาม”กันมาว่า ทำไม่”ผู้ร้าย” ที่”เข่นฆ่า” เจ้าหน้าที่เสียชีวิตมากมาย จึงตัดสินจำคุกเพียงเท่านี้ ก็ขอบอกว่าอย่า”เข้าใจผิด” คดีที่”ศาลนาทวี” สั่งคำคุก “อัชมัน เปาะเลาะ” 4 ปี 16 เดือน เป็นคดีแรก นั้นคือ คดี”สะสมกำลังพลและอาวุธ” เพียงคดีเดียว ส่วนอีก 17 คดี ยังอยู่ระหว่าง”กระบวนการยุติธรรม” และ นี้คือความ”อ่อนด้อย” ของการ”สื่อสารกับสังคม” ทำให้”ข่าวสารสำคัญ” ไม่มีความ”กระจ่างชัด”……

@เรื่อง”เศรษฐกิจ” ในพื้นที่ของ”ภาคใต้” โดยโตเร็ว ถือว่า”เป็นบวก” โดยเฉพาะด้านของการ”ท่องเที่ยว” แค่”ภูเก็ต” จังหวัดเดียว และแค่”ตัวเลข” ของ”นักท่องเที่ยว” ที่ผ่าน”สนามบินภูเก็ต” มากถึง 30,000 คนต่อวัน ดังนั้น”เม็ดเงิน”จากการ”ท่องเที่ยว” ย่อม”สะพัด” ใน”เกาะภูเก็ต” ส่วนสิ่งที่ตามมานั้นคือเรื่องของ”อาชญากรรม” เรื่องการ”ต้มตุ๋น” เรื่องการ”หลอกลวง” และการ”เอารัดเอาเปรียบ”นักท่องเที่ยว” ทั้งจาก” มิจฉาชีพ” และ”ผู้ประกอบการ” ซึ่งเรื่องนี้ “ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิถาวร” ผกก 2 บก. ทท.3 ซึ่งรับผิดชอบ “ตำรวจท่องเที่ยว” ต้องมีแผนในการ”ปฏิบัติหน้า” ในการดูแล “นักท่องเที่ยว” ให้มีความ”ปลอดภัย” และไม่ถูก”เอารัดเอาเปรียบ” เพราะยามนี้”เม็ดเงิน” ที่”หลังไหล” เข้ามาประเทศไทย มาจาก”อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” เท่านั้น….. ในขณะที่ ททท. ก็ มีแผนในการ”ขับเคลื่อน” เพื่อ”ส่งเสริมการท่องเที่ยว” ในจังหวัดอันดามัน” พังงา,กระบี่, ตรัง “และ” สตูล” ซึ่งมีความ”เติบโต” อย่าง”ต่อเนื่อง” หลังผ่านพ้นเรื่องของ”โควิด 19” โดย เชื่อว่าปี 2567 จะมี “นักท่องเที่ยว” เข้ามา “ท่องเที่ยว” ใน”จังหวัดอันดามัน” รวมทั้งสิ้น 30-35 ล้านคน ทั้งหมด น่าจะเป็น”เติบโต” ตาม”ธรรมชาติ” ที่”เสนาบดีท่องเที่ยวและกีฬา” ไม่ค่อยได้”พูดถึง” การ”ท่องเที่ยว” ใน”ภาคใต้” มากนัก…..

@ส่วน”การท่องเที่ยว” ใน”ภาคใต้ตอนล่าง” ใน จ.สงขลา ก็ยังอาศัย” นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย” เป็น”ลมหายใจหลัก” ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ ตลอดปีที่ผ่านมา”นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย” มาเที่ยว หาดใหญ่แบบ”สม่ำเสมอ” และ”ล้นหลาม” ในห้วง”เทศกาล”ต่างๆ และใน”เทศกาลวันลอยกระทง” ก็ เชื่อว่า”หาดใหญ่” จะ”คลาคล่ำ”ไปด้วย”ชาวมาเลเซีย” ปรากฎการณ์นี้ ทำให้”นักธุรกิจ” และ”องค์กรเอกชน” ต่างไม่คิดที่จะ”ขยับขับเคลื่อน” แผนการ”ขยายการท่องเที่ยว” เพราะ”พอใจเม็ดเงิน” จาก”ชาวมาเลเซีย” ส่วน”เทศบาลนครหาดใหญ่” ที่มี” พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี” เป็น”นายกเทศมนตรี” ก็อยู่ระหว่างการ”สร้างซุ้มประตูไชน่าทวน์”ที่ “สวนหย่อมเซียงตึ้ง” เพื่อเป็น”สัญลักษณ์” ของการท่องเที่ยว ….. สำหรับใน “สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ก็มีเพียง อ.เบตง จ.ยะลา เพียง อำเภอเดียว ที่การ”ท่องเที่ยว”ยังคง”คึกคัก” วัน”ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์” และห้วงที่มี”เทศกาลสำคัญ” ที่พักไม่เพียงพอ ร้านอาหาร”เต็มล้น” ไปด้วย นักท่องเที่ยว และ”ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง” ยังคงมี”เสน่ห์” ในการ”ดึงดูด”นักท่องเที่ยว ให้มาเยือน และ เร็วๆนี้ จะมีการสายการบิน”น้องใหม่” ที่ชื่อว่า”อีซีแอร์ไลน์” จะเปิดเที่ยวบินจาก” สนามบินนานาชาติหาดใหญ่” บินตรงไปยัง”สนามบินเบตง” ซึ่ง “เจ้าของสายการยิน” ได้นำเครื่องไป”ทดลองบิน” แล้ว เพื่อสร้างหา”ประสบการณ์” และสร้างความ”มั่นใจ” ให้กับ”ผู้โดยสาร” ถึง”ความปลอดภัย” มีความพร้อมบิน แต่ที่ยัง”บินไม่ได้” เพราะ”กรมการบินพลเรือน” ยัง”โอเอ้วิหารราย” ยังไม่ส่ง”ใบอนุญาต”ให้บินได้ นั้นเอง ก็หวังว่า” ทุกฝ่าย” โดยเฉพาะ”ฝ่ายความมั่นคง” จะต้อง”รักษาความสงบ”ของ”เมืองเบตง” ให้”ปลอดภัย”จากการ” ก่อการร้าย”ของ” บีอาร์เอ็น” เพราะนี้คือ”แหล่งปั้มเงิน” เพียงแห่งเดียวของ”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่เหลืออยู่….

@เรื่องของการเมืองท้องถิ่น การเลือกตั้ง” องค์การบริหารส่วนจังหวัด” ซึ่งที่ผ่านมา”ผู้บริหารอบจ.” ต่างอาศัย”ช่องว่างของกฎหมาย” ลาออกก่อนครบวาระ เพื่อจัดให้มีการ”เลือกตั้งเฉพาะทีมผู้บริหาร” ส่วนการเลือกตั้ง” สมาชิกอบจ. หรือที่เรียกว่า “สจ.” ต้อง เลือกตั้งหลังอยู่ครบวาระ ซึ่งเป็น”เทคนิค” ของการ”เลือกตั้ง” ที่ หลายๆ จังหวัดได้ทำกันอย่างเป็น”ปกติ” แต่ วันนี้ “สุนทร บุญยิ่ง” จาก”เครือข่ายประชาชนต้านทุตริตและคอร์รับขั่น” ได้”ยื่นเรื่อง” ให้กับ”คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หรือ” กกต.” พิจารณาว่า การ”ลาออก” ของ”ฝ่ายบริหาร” และ”เลือกตั้ง” ก่อน”ครบวาระ” เป็นการทำผิด”กฎหมายรัฐธรรมนูญ” ก็ต้องติดตามว่า” กกต.” จะมีความเห็นอย่างไร เพราะถ้า”ผิดกฎหมาย” ก็จะกลายเป็น”เรื่องใหญ่” ทางการเมือง ที่ สำคัญยุคนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้…..

@ตามไปดูการ”เลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราช” ซึ่งมีการ”จับตามอง” จาก”ทุกภาคส่วน” เพราะวันนี้” กนกพร เดชเดโช” อดีตนายก อบจ. นครศรีธรรมราช” ที่ก่อน”ลงสนาม” ใครต่อใครบอกว่า”แบเบอร์”ไร้”คู่แข่ง” วันนี้ ยิ่งเดินหน้าหาเสียง ยิ่งเห็นชัดว่าคู่แข่งอย่าง”วาริณ ชินวงศ์” อดีต”ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช” และ”อดีตเลขานุการส่วนตัวของ”พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ไม่”ธรรมดา” เพราะกำลัง”หายใจรดต้นคอ” และอาจจะ”เต็งหาม” ใน วัน”หย่อนบัตรลงคะแนน” แม้ว่า” กนกพร เดชเดโช” จะมี”ลูกชายเป็น สส.เขต ถึง 2 คน แต่ก็อย่างลืมว่า”กระแส”ของ”ประชาธิปัตย์” ไม่สู้ดีนัก เมื่อ”เทียบกับภูมิใจไทย” ที่รู้กันว่าเป็นผู้”สนับสนุน”ให้”วาริณ ชินวงศ์” ลงสนามเพื่อ”ชิงตำแหน่ง” นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ในครั้งนี้ ในขณะที่ ผู้สมัครหมายเลข 3 คือ อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ และหมายเลข 4 คือ สัณหพจน์ ศรีเมืองสุข” อดีต สส.ของ “พลังประชารัฐ” ก็มีส่วนในการทำให้”คะแนนเสียง”ของ”การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกแบ่งออกไป ก็ต้องติดตาม”โค้งสุดท้าย” ว่า” ประชาธิปัตย์” จะ”แก้เกม” โดยการ”ขย่ม” พื้นที่เพื่อ”ปิดทางชนะ”ของ”วาริณ ชินวงศ์” อย่างไร เพราะ”ประชาธิปัตย์” มักจะมี”ลูกไม้ใต้เฉี้ยน” มา”เล่นงาน” คู่ต่อสู้ได้เสมอ ฉะนั้น” ทั้ง”วาริณ ชินวงศ์” และ”พลพรรคสีน้ำเงิน” อย่างได้ประมาท…..

@ส่วนใน จ.สงขลา เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา”สุพิศ พิทักษ์ธรรม”หัวหน้าทีม”สงขลาพลังใหม่” อดีต “อธิบดีกรมฝนหลวงฯ ก็ได้เปิดตัว”ทีมสงขลาพลังใหม่” ทั้งฝ่าย”บริหาร” และ” สมาชิก อบจ.ทั้ง 36 คน ต่อ”สื่อมวลชน” เป็นที่”เรียบร้อยโรงเรียนสุพิศ” ไปแล้ว ใน ส่วนของ”ทีมที่ปรึกษา” ที่น่าสนใจคือได้”สมพร ใช้บางยาง” อดีต ผวจ.สงขลา และ อีกหลายตำแหน่ง รวมทั้ง”นายกสมาคมวอลเลย์บอล” มาเป็น”ประธานที่ปรึกษา” ซึ่งได้ประกาศต่อหน้า”ธารกำนัล” ว่า นอกจากจะ”ระดมสมอง”ให้คำ”ปรึกษา”แล้ว ยังจะทำหน้าที่ในการ”ตรวจสอบ” ถ้า” สุพิช พิทักษ์ธรรม” ได้เข้าไป”บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา” แล้วไม่เป็นไปตาม”นโยบาย” และ”คำมั่นสัญญา” ที่ให้ไว้ก็จะ”เดินออกจากทีมสงขลาพลังใหม่” เป็น”คนแรก” ก็หวังว่าจะไม่ได้เห็น” สมพร ใช้บางยาง” ต้อง”เดินออกจากการเป็นประธานที่ปรึกษาของการเมืองท้องถิ่นเป็นครั้งที่ 2”นะ…..

@ส่วน “ทีมคู่แข่ง” ที่ถูก”จับตามอง” คือ”ทีมของ”ไพเจน มากสุวรรณ์” นายก อบจ.คนปัจจุบัน ที่บอกทุกคนที่”ถามไถ่” ว่ายังต้องการเป็น”นายกอบจ.สมัยที่ 2” เพราะยังมี”ภารกิจ” ที่ต้องการ”สานต่อ” และเห็น”นัยที่สำคัญ” คือการ”ลงพื้นที่อย่างถี่ยิบ”ก่อน”หมดวาระ” ในการ”ปฏิบัติหน้าที่” เพื่อ”พบปะประชนชน” เป็นการ”เช็คเรตติ้ง”หรือ” เสียงสนับสนุน” ซึ่ง”คอการเมือง” กำลัง”ใจจดใจจ่อ” อยากเห็น”โฉมหน้า”ของทีมงานของ”ไพเจน มากสุวรรณ์” ว่าจะ”พอฟัดพอเหวี่ยง” กับทีม” สงขลาพลังใหม่” ของ”สุพิศ พิทักษ์ธรรม” หรือไม่ รวมทั้งต้องการ” ว่าจะมี”บ้านไหน” ที่ให้การ”สนับสนุน” ทีมของ”ไพเจน มากสุวรรณ์”เห็นบ้านใหญ่ เพราะ”บ้านใหญ่อย่าง” ขาวทอง” และ”บุญญามณี” ที่เคยอยู่”เคียงข้าง”ไพเจน มากสุวรรณ์” เมื่อ 4 ปี ที่แล้ว ณ วันนี้”ย้ายข้าง” มายืน”ข้างเคียง”กับ” สุพิศ พิทักษ์ธรรม” อย่าง”สง่าผ่าเผย” ทุกอย่างเป็น”อดีต” ส่วน”ปัจจุบัน” ก็เป็น อย่างที่เห็น ทั้งหมดคือ”สัจธรรม”ของ”การเมือง” ที่ไม่มีมิตรแท้ และ ศัตรูถาวร” คนที่อยู่ใน”สนามการเมือง” ต้อง”เข้าใจถึงสัจธรรม” นี้ให้ได้…..

@เรื่อง”ยาเสพติด” และ”แรงงานเถื่อน” กลายเป็น”ปัญหาประจำถิ่น” ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ไปแล้ว วันนี้ ตั้งแต่”พัทลุง”ลงมาจนถึง”สงขลา” และ ละเรื่อย”ไปถึง ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส” และ”สตูล” กลายเป็น”แหล่งพักยา” และ”กระจาย”ยาเสพติด” ทั้ง”ไอซ์” และ”ยาบ้า” ที่สำคัญ”อาชีพการค้ายาเสพติด” กลายเป็น”อาชีพหนึ่ง” ที่ถูกยึด”เป็นอาชีพ” ถาวร ที่”ทำเงิน” ในการ”เลี้ยงชีพ” และ”เลี้ยงครอบครัว” การ”จับกุม” อย่างเดียว จึงไม่ใช่การ”แก้ปัญหา” ที่ถูกต้องถูกจุด”เป็นการ”เกาไม่ถูกที่คัน” เรื่องนี้”แพทองธาร ชินวัตร” จะประกาศว่าการแก้ปัญหา”ยาเสพติด”เป็น”วาระแห่งชาติ” อย่างเดียวไม่เป็นผล ต้องมีการ”จัดขบวนทัพ” ในการ”จัดการกับยาเสพติด” คือต้องมี” เจ้าภาพ” ที่”ชัดเจน” ไม่ใช่การจัดทัพแบบ” เบี้ยหัวแตก” ที่”ต่างคนต่างคิด” และ”ต่างคนต่างทำ” เชื่อเถอะ ถ้าเป็นอย่างที่เป็น” ชาติหน้า” โน่น ปัญหา”ยาเสพติด” จึงจะ”เบาบาง”……

@เช่นเดียวกับเรื่องของ”แรงงานเถื่อน” เรื่องของ”การค้ามนุษย์” ถ้า ไม่สามารถ”แก้ที่”ชายแดน” ที่เป็น”ปากประตู” ที่นำเข้า”แรงงานเถื่อน” โดย”ปล่อย” ให้”เข้ามา” และ”กระจาย”กันไปทั่วทุกภาค มี”เอเย่นต์”การ”ค้ามนุษย์” ทุก”จังหวัด” และการ”ตรวจค้น” บน “เส้นทางสายใต้” ยังไม่”จริงจัง” ไม่มี”เจ้าภาพ” ที่”ชัดเจน” มีการ”รับส่วยสาอากร” อย่างที่เป็นอยู่ ปัญหา”แรงงานเถื่อน” เห็นที่ต้องรอให้”ประเทศเพื่อนบ้าน” ที่เป็น”ต้นตอและต้นทาง” ต้อง”สิ้นชาติ” เสียก่อน เรื่อง”แรงงานเถื่อน” และการ”ค้ามนุษย์” ในประเทศไทยจึงจะ”ยุติ”ลงได้ และที่สำคัญ ถ้าทุกเรื่องทุกปัญหา ต้องรอให้”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เป็นผู้”สั่งการ” แล้ว ประเทศนี้จะมี” เสนาบดี” มี”รัฐมนตรี” มี”ปลัดกระทรวง” มี”อธิบดี” มี”ผู้ว่าราชการจังหวัด”มี”นายอำเภอ” มี”ผู้บัญชาการ” มี”ผู้การ มีผู้กำกับ” มี”แม่ทัพ นายกอง” ไว้ ทำ”ตะบักตะบวย” อะไรกัน….. แล้วพบกันใหม่ วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

—————————————————————-

ไชยยงค์ มณีพิลึก

ตรวจที่เกิดเหตุ. พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 และ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ. 9 และ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ โรงงาน แฮนด์ อิน แฮนด์ เขตเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส สถานที่ซึ่งคนร้าย บุกยิง พิเชษฐ์ ไทยทองนุ่น นายกเทศบาลรือเสาะ / นายกสมาคมกีฬาจังหวัดนราธิวาส เสียชีวิตอย่างอุกอาจ

เปิดแข่งขันกีฬา พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ยะลาเกมส์” เพื่อคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาภาค 4 ใน 14 จังหวัดภาคใต้ ณ สนามโรงพิธีช้างเผือก ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา

ทอดกฐิน.. พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี วัดมะกรูด ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อสมทบทุนปฏิสังขรโรงครัว โดยมี ชาวไทยพุทธ ร่วมบุญ อย่างคับคั่ง

หารือผู้นำศาสนา นันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)พบปะหารือคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี โดยมี แวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลาม จ.ปัตตานี ให้การต้อนรับ ณ สำนักงานกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี

เปิดอบรม. พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรยกระดับฝีมือ พลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมด้วยระบบอัตโนมัติ ณ ห้องประชุมโรงแรมลากูน่า แกนร์นโฮเทลฯ โดยมี จิรวัฒ์ มณีโชติ รอง ผวจ.สงขลา และคณะให้การต้อนรับ

แสดงความยินดี. พล.ต.ท.สาคร ทองมุนี. นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ร่วมแสดงความยินดีกับ สุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา ได้เปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ สงขลา

กำลังใจ. ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วย สมาชิกวุฒิสภา จาก 5 จว.ชายแดนภาคใต้ บางส่วน มอบแจกันดอกไม้ เพื่อให้กำลังใจ และ แสดงความยินดีกับ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ณ ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

สมรส-สมรัก. เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วย “สส.น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล เป็นประธานในงานมงคลสมรส ให้กับคู่บ่าว-สาว เอื้ออันน์กฤด ศรีวุฒิชาญญดา (หยาง) บุตรีคุณพ่อสัญญา-คุณแม่เฟื่อง ศรีวุฒิชาญ และกรเอก จันทร์แก้ว (คอม) หลานชาย “นายกเอียด” จรัญ จันทร์แก้ว นายกเทศมนตรีตำบลดอนประดู่ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง บุตรคุณแม่กฤชสร จันทร์แก้ว ณ MBI RESORT DANNOK ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา

ลงเสาเอก. มุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา เป็นประธานพิธีลงเสาเอกอาคารอเนกประสงค์ คสล. 2 ชั้น พร้อมด้วย อับดุลฮายี สาแม็ง สส.ยะลา เขต 3 ระเด่น สะมะแอ รองนายก อบจ.ยะลา Lohraden Abdulมาชิกสภา อบจ.ยะลา หัวหน้าฝ่ายสำรวจและออกแบบ วิศวกร และ นายช่าง อบจ.ยะลา เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีอีหมาน และประชาชนให้การต้อนรับ ณ บ้านจารูนอก ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา

แสดงความยินดี. ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล วุฒิสมาชิก/นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ( สนพท, )มอบของที่ระลึกแสดงความยินดีกับ พล.ท.สุรเทพ หนูแก้ว ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.ศูนย์ประสานการปฏิบัติ 5 กอ.รมน. ณ กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ

หารือ. ยงยุทธ ชนานิรมิตผล เลขานุการกรมการปกครอง รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านตรวจสอบภายใน และคณะฯ เข้าพบ โอฬาร บิลสัน ปลัดจังหวัดยะลา เพื่อปรึกษาหารือ และนำเรียนข้อมูลตรวจสอบการปฏิบัติงานด้านการเงิน การบัญชี การพัสดุ การบริหารงบประมาณ ในโอกาสลงพื้นที่ปฏิบัติงานตามแผนการตรวจสอบภายใน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ ห้องปฏิบัติการปลัดจังหวัด ศาลางกลางจังหวัดยะลา

ร่วมประชุม. วันสุกรี แวมามะ นายอำเภอเมืองปัตตานี เป็นประธาน และเข้าร่วมการประชุมเสนอแนวคิดในการกำหนดรูปแบบทางเลือกการพัฒนาโครงการเบื้องต้น (กลุ่มย่อย ครั้งที่ 1) โครงการจ้างวิศกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางแยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 42 กับทางหลวงหมายเลข 4120(แยกบานา) และตัดถนนรามโกมุท ณ ห้องประชุม อบต,บานา อ,เมือง จ.ยะลา

จิตอาสา. บุญญฤทธิ์ สุวรรณะ กำนัน ต.คูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา พร้อม ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และประชาชน ในพื้นที่ ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสา ณ วัดศรีไชย ต.คูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา

ปล่อยแถว. พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9 เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง 4 ฝ่าย เพื่อร่วมบูรณาการกำลังรักษาความปลอดภัยเมืองเศรษฐกิจ เขตพื้นที่อำเภอเมืองยะลา ในห้วงการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาอาวุโสแห่งชาติ รอบคัดเลือก ภาค 4 และเทศกาลวันลอยกระทง ประจำปี 2567 โดยมี พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ กองบังคับการตำรวจภูธรยะลา

กวาดล้างอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง จ.ยะลา เป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม การกระทำความผิดที่เกี่ยวกับ อาวุธปีน ยาเสพติด การพนันออนไลน์ การลักลอบนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และบุคคลตามหมายจับ ในห้วงเทศกาลวันลอยกระทง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในพื้นที่อำเภอเบตง โดยมีปตำรวจ / หน่วยปฎิบัติการพิเศษ ตชด.445 ณ หน้า สภ.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา

สวมผ้าไทย. ว่าที่ ร.ต,ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส นำข้าราชการ สวมใส่ผ้าไทย ผ้าทอ ผ้าพื้นถิ่น และผ้าลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัดนราธิวาสลายนรารวมใจ ตามสโลแกน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผนดิน“ ภายใต้ชื่อ “งามเลิศล้ำ แพรพรรณ เมืองเมอนารอ ผ้าถิ่น ผ้าทอ และผ้าลายพระราชทาน” จังหวัดนราธิวาส มีการประชาสัมพันธ์ให้ส่วนราชการ ภาครัฐ และภาคเอกชน สวมใส่ผ้าไทย ผ้าทอ ผ้าพื้นถิ่น และผ้าลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัดนราธิวาส ในทุกวันอังคาร ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย

ปลายทางชีวิต. พรชัย นาคพล ผู้สื่อข่าว เดลินิวส์ จ.ตรัง เป็นตัวแทน ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสมาชิก จ.สงขลา/นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย/หัวหน้าศูนย์ศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคใต้ตอนล่าง วางพวงหรีดเคารพศพ คุณแม่เปรียม ทองนะ(คงอินทร์) มารดา ร.ต.อ.ฉลอง ทองนะ สมาชิกวุฒิสมาชิก จ.ยะลา ณ วัดพรหมประทาน ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง

นักท่องเที่ยว. กลุ่ม รถมอเตอร์ไซค์ ฮาเล่ Harley-จาก 5 รัฐ ของประเทศมาเลเซีย จำนวน 60 ชีวิต 50 คัน เดินทางไปร่วมงานชุมนุมรถ ที่ จังหวัดเชียงราย ผ่านทางถนนสาย 404 จังหวัดตรัง แวะกินอาหารเที่ยงที่ร้านอาหาร ฮานีส ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง