ทั้งนี้ กับประเด็น “อิทธิพลราหูต่อดวงเมือง” ดังกล่าวนี้ ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้รับการบอกเล่าจาก อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ จากการวิเคราะห์ในทางโหราศาสตร์เกี่ยวกับตำแหน่งและอิทธิพลดาวสำคัญ ๆ ที่ในทางหลักโหราศาสตร์ดวงดาวใช้พิจารณาเพื่อทำนายทายทักดวงคน ดวงเมือง ซึ่งก็ได้มีการชี้มาว่า… “ราหูเป็นกาลกิณีดวงเมือง”…
อัน “เกี่ยวโยง” ทั้งกรณี “ตุ๋น–หลอก”
และกรณี “กิจการต่างประเทศ” ก็ด้วย
เกี่ยวโยงอย่างไรนั้น?? วันนี้มาดูกัน…
อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ
จากการวิเคราะห์ในทางโหราศาสตร์… อ.ภิญโญ ได้สะท้อนผ่านมาทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” โดยระบุว่า… เมื่อดูกันที่อายุเมืองตอนนี้ ย่าง 243 ปี โดยที่ทักษาจรของดวงเมืองตกภูมิศุกร์ เพราะฉะนั้นตามหลักโหราศาสตร์ถือว่า “พระราหูเป็นกาลกิณีของดวงเมือง” โดยที่ ราหูจรบนท้องฟ้าอยู่บนราศีมีน แล้วทับดาว 3 ดวง โดยเฉพาะตอนนี้มีองศาที่ใกล้กับ ดาวศุกร์ อยู่ที่ระยะ 9 องศาเศษ ๆ และนอกจากทับดาวศุกร์แล้วราหูยังไปทับ ดาวพุธ และก็ไปทับ ราหูเดิม อีกด้วย…
“ดาวศุกร์ หมายถึง คนมีเงิน คนมีชื่อเสียง ศิลปิน แล้วก็ยังเกี่ยวกับเศรษฐกิจ เกี่ยวกับการเงินการคลัง เมื่อโดนราหูมาทับ ในตำราโหรจะหมายถึงพวกสีเทา ผู้มีอิทธิพล คนดังทั้งหลาย ในตำราบอกไว้ว่า…ราหูรู้เล่ห์ลิ้น แลปลิ้นปลอก ชอบหลอนหลอกผู้คนให้หลงใหล เพราะฉะนั้นปัญหาที่เกิดจากราหูที่ทับดาวศุกร์ ก็คือทำให้เกิดการ…
หลอกลวง ต้มตุ๋น เพื่อผลประโยชน์”
นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติยังได้สะท้อนผ่านทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ถึงประเด็น “พระราหูเป็นกาลกิณีของดวงเมือง” มาอีกว่า… “นอกจากนี้ ราหูยังเป็นเจ้าเรือนที่ 7 ส่วนดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนที่ 2 และเจ้าเรือนที่ 7 ด้วย ซึ่งเจ้าเรือนที่ 7 หมายถึง การต่างประเทศ กิจการต่างประเทศ เพราะฉะนั้นเมื่อราหูเป็นกาลกิณีของดวงเมืองมันเลยพาลไปถึงเรื่องผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการต่างประเทศ โดยเฉพาะราศีมีน ที่เป็นราศีธาตุน้ำ มันก็โยงไปถึงเรื่องพื้นที่น่านน้ำที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งเนื่องจากราหูทับดาว 3 ดวงตรงราศีมีน จึงมีเรื่องพื้นที่น่านน้ำเกิดขึ้น…
เกิดปัญหากรณีน่านน้ำไทย–กัมพูชา”
ทั้งนี้ อ.ภิญโญ ได้สะท้อนผลวิเคราะห์ดวงดาวในทางโหร ในประเด็น “พระราหูเป็นกาลกิณีของดวงเมือง” โดยราหู “ทับดาว 3 ดวง” ต่อไปว่า… นอกจากราหูจะทับดาวศุกร์แล้ว ราหูก็ยังไป ทับดาวพุธ ซึ่งราหูกับดาวพุธนั้นถือเป็นดาวคู่ศัตรูกัน ตามหลักโหราศาสตร์ก็จะ ทำให้เกิดปัญหา–ทำให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น โดยที่ดาวพุธเป็นเจ้าเรือนชะตาที่ 3 และเจ้าเรือนชะตาที่ 6 ซึ่งสำหรับเจ้าเรือนที่ 3 นั้นหมายถึง สหัสชะ ในความหมายของดวงเมืองหมายถึง ประเทศเพื่อนบ้าน การคมนาคม การขนส่ง การติดต่อสื่อสาร ส่วนเรือนชะตาที่ 6 ชื่อ อริ แปลว่า ศัตรู บ่งบอกถึงการ มีปัญหา ที่เกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน
“ปกติพระราหูก็ร้ายอยู่แล้ว เมื่อเป็นกาลกิณี เลยยิ่งร้ายหนัก แล้วมาทับดาวศุกร์ ทับดาวพุธ แล้วยังทับราหูดวงเดิม ในตำราบอกว่า…ราหูประทับศุกร์ กรนั้นจะเกิดพาล ในเรือนจะเกิดการ อัคนีอย่าดูเบา ก็จะเกิดปัญหา…
เกิดความรุ่มร้อน เหมือนไฟเผาบ้าน”
ขยายความกรณี “ราหูทับดาวศุกร์” ทางโหรท่านเดิมสะท้อนผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” เพิ่มเติมมาว่า…“ดาวศุกร์ ที่บอกว่าเป็นเจ้าเรือนที่ 2 และเจ้าเรือนที่ 7 สำหรับเจ้าเรือนชะตาที่ 7 หมายถึง การต่างประเทศ มันเลยโยงถึงเรื่องผลประโยชน์ในอ่าวไทย ที่เกี่ยวกับการต่างประเทศด้วย ส่วนเจ้าเรือนที่ 2 หมายถึง เศรษฐกิจ การเงิน ผลประโยชน์ เมื่อราหูมาทับ ก็เหมือนกับโดนหลอก ปัญหาถูกหลอกที่เกิดขึ้นนั้นส่วนใหญ่เกิดจากความโลภ ความอยากจะได้ อยากจะมั่งมี เป็นกิเลส คนที่หลงติดกับดักถูกหลอกส่วนใหญ่ก็เป็นคนอยากจะรวย อยากได้ผลประโยชน์เยอะ ๆ…
ขนาดพระสงฆ์ยังไม่เว้นถูกหลอกได้”
ประเด็น “อิทธิพลราหู” ที่สะท้อนมาข้างต้นนี้ ก็สอดคล้องกับคำทำนายดวงเมืองท้ายปีในภาพรวมโดยนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ที่ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้เคยนำเสนอไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แล้วก็ยึดโยงมาถึงอิทธิพลราหูกับกรณี“ต้มตุ๋น-หลอกลวง โดยคนดังหลายวงการตกเป็นผู้ต้องหา”ที่ระยะหลัง ๆ มานี้ “ปรากฏอื้ออึง” ต่อเนื่อง…
และโฟกัสเฉพาะกรณีนี้…ทาง อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ ก็ชี้ย้ำจากการวิเคราะห์ทางโหรว่า… “สาเหตุปัญหาทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นกับบ้านเราตอนนี้ รวมถึงกับคนดัง ๆ เพราะราหูเป็นกาลกิณีจร แล้วมาทับดวงเมือง ตรงราศีมีน ซึ่งเป็นภพวินาศ แปลว่า เสียหาย มีอุปสรรค ปัญหา มีการปิดบัง ซ่อนเร้น ที่สำคัญราหูเป็นความมืดมนอนธการ การหลอกลวง ต้มตุ๋น เมื่อราหูทับจุด 3 จุด มันก็เลยเกิดปัญหาค่อนข้างเยอะ เรื่องที่เคยปกปิดซ่อนเร้นก็เปิดเผยขึ้นมา”
สรุป “ตุ๋นอื้ออึง” หลักโหร “เพราะราหู”
เกลื่อน “เพราะราหูกาลกิณีดวงเมือง”
ขณะเดียวกันก็…“เป็นยุคโป๊ะแตก!!!”.
ทีมสกู๊ปเดลินิวส์