เรียน คุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ
ผมอายุ 64 ปี ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงมาเกือบ 5 ปี แต่กินยาไม่ค่อยสม่ำเสมอ ระยะ 2 ปีให้หลังมานี้ มักจะมีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย บางครั้งก็เป็นลม และหากเดินขึ้นบันไดประมาณ 3-4 ขั้น ก็จะมีอาการเหนื่อยมาก ใจสั่น หอบ และแน่นหน้าอก โดยทั่วไปผมกับภรรยามีเพศสัมพันธ์ไม่ค่อยบ่อยนัก นาน ๆ ครั้งถึงจะร่วมเพศ แต่ทุกครั้งที่ร่วมเพศก็จะสำเร็จทุกครั้ง แต่มีอยู่หนึ่งครั้งที่กำลังร่วมเพศกับภรรยาจู่ ๆ ผมก็เกิดเป็นลมขึ้นมา ภรรยาต้องนำส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นโรคหัวใจโต และกำลังอยู่ในภาวะหัวใจล้มเหลว จึงเข้ารับการรักษานานหลายเดือนตอนนี้อาการดีขึ้นมาก สามารถเดินขึ้นบันไดได้หลายขั้นโดยที่ไม่มีอาการเหนื่อย หอบและเจ็บหน้าอกเลย
แต่ปัญหาของผมคือไม่กล้ามีกิจกรรมทางเพศเพราะกลัวจะมีผลต่อโรคที่เป็นจนเกิดอันตรายได้ จึงงดการร่วมเพศมาเกือบ 1 ปีแล้ว เคยปรึกษาหมอที่ดูแลแล้วหมอก็ให้ความมั่นใจ แต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย จึงอยากได้คำแนะนำจากคุณหมอว่าควรจะทำอย่างไร
ด้วยความนับถือ
ประเสริฐ
ตอบ ประเสริฐ
มีรายงานวิจัยในคนไข้กลุ่มที่เป็นโรคหัวใจจากการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ และกลุ่มที่ยังไม่เป็นโรคหัวใจแต่มีแนวโน้มที่จะเป็น การร่วมเพศไม่ได้ทำให้ร่างกายทำงานหนักมากเกินไป ทั้งการใช้ออกซิเจนของร่างกายระหว่างการร่วมเพศซึ่งน้อยกว่าการเดินขึ้นบันได 2 ขั้นเสียอีก ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะให้คนที่เป็นโรคหัวใจหยุดร่วมเพศหลังจากการพักรักษาตัวแล้ว 4-6 สัปดาห์ ถ้าสามารถออกกำลังกายได้ในระดับพลังงาน 6-8 แคลอรีต่อนาทีได้โดยไม่มีอาการผิดปกติของความดันโลหิตและชีพจร
สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอาการในขณะร่วมเพศควรกินยา และออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะจะทำให้สมรรถภาพทางเพศและการทำงานของร่างกายดีขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามความถี่ในการร่วมเพศของคนที่เป็นโรคหัวใจไม่ควรมากกว่าที่เคยปฏิบัติอยู่ นอกจากนั้นเวลาที่เหมาะสมในการร่วมเพศของคนที่เป็นโรคนี้ควรจะเป็นตอนเช้าหลังจากได้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอแล้ว แต่ถ้ามีอาการเจ็บหน้าอก แน่นอึดอัดหรือเหนื่อยหอบ ก็ควรหยุดและรีบไปปรึกษาแพทย์ที่ดูแล แต่หากมีความจำเป็นต้องการงดร่วมเพศจริง ๆ การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองก็ต้องงดด้วย เพราะมีผลต่อร่างกายและหัวใจด้วยเช่นกัน
ในกรณีที่สามารถร่วมเพศได้แต่เกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมซึ่งเกิดได้บ่อยมากกับผู้ป่วยโรคหัวใจ สิ่งที่อยากแนะนำคือห้ามกินยากลุ่มยับยั้งเอนไซม์พีดีอี-5 เพื่อให้อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัวเต็มที่ ควบคู่กับการใช้ยาขยายหลอดเลือดกลุ่มไนเตรตที่ส่วนใหญ่ใช้รักษาโรคหัวใจเพราะจะเกิดอันตรายมากจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถ้าต้องการให้ปลอดภัย ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจแล้วมีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศควรจะทราบชื่อยาที่หมอใช้ในการรักษาตัวอย่างยาที่ใช้ เช่น Imdur Isosorbide Manolin กลุ่มนี้คือกลุ่มไนเตรตใช้ในกรณีเส้นเลือดหัวใจตีบจึงห้ามกินยาเฉพาะกิจทำให้ร่วมเพศไม่ได้ต้องเลี่ยงไปใช้วิธีอื่น ให้ขอคำแนะนำจากแพทย์ที่ดูแลให้ละอียด และควรเข้ารับการฟื้นฟูอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญโดยตรง การซักประวัติของคนไข้กลุ่มนี้มีความสำคัญมากต่อการรักษา เพื่อเลือกแนวทางการรักษาที่ปลอดภัย เช่น การใช้วิธีสร้างเส้นเลือดใหม่ ช่วยขยายเส้นเลือดตีบให้ขยายโตและยาวเพิ่มขึ้นมีส่วนช่วยให้การแข็งตัวดีขึ้นใช้คู่กับวิธีขยายกล้ามเนื้อเพศจะได้ประโยชน์ดีแทนยาเฉพาะกิจ.
………………………………
ดร.โอ สุขุมวิท51