แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนัก ที่สำคัญมีวิวัฒนาการพัฒนาหลายรูปแบบ อย่างกรณีเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. 67 ที่ผ่านมา เหยื่อหนุ่มนักศึกษา วัย 23 ปี หายตัวออกจากบ้านย่านบางบอนอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับนำรถเบนซ์ของบิดาไปด้วย หลังได้รับโทรศัพท์จากชายลึกลับอ้างว่าเป็นพนักงานไปรษณีย์ จ.ภูเก็ต หลอกว่าตรวจสอบเจอสิ่งของผิดกฎหมายร้ายแรงในกล่องพัสดุ จากนั้นแอดไลน์วิดีโอคอลคุยกับคนร้ายที่ปลอมเป็นตำรวจ ก่อนหลงเชื่อ เพราะมีหน้าพาสปอร์ตและสมุดบัญชีธนาคารของตนเองอยู่ด้วย และให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายบอกทุกอย่าง จนเดินทางออกไปยังประเทศกัมพูชา จากนั้นได้มีสายโทรศัพท์ปริศนาโทรฯ เข้ามาหาแม่นักศึกษารายนี้ อ้างว่าเป็นตัวกลางมาเก็บเงินจำนวน 5 ล้านบาท โดยอ้างว่าลูกชายก่อหนี้สินทิ้งไว้ จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางขุนเทียน
ต่อมาชุดสืบสวน บก.น.9 นำโดย พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บกน.9 เริ่มสืบสวนแกะรอยจนพบข้อมูล ที่นักศึกษารายนี้ขับรถไปจอดทิ้งไว้ที่ช่องจอดรถของตลาดเดอะมิลล์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากนั้นได้เหมารถแท็กซี่ไปยังด่านพรมแดนบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว และข้ามไปพักฝั่งกัมพูชา เคราะห์ดี พ.ต.อ.ธิติพงษ์ ประสานไปยัง พ.ต.อ.ปิยวัฒน์ เกียรติก้อง ผู้ช่วยทูตตำรวจประจำประเทศกัมพูชา จนสามารถเข้าช่วยเหลือหนุ่มนักศึกษารายนี้ได้อย่างปลอดภัย
ส่วนฝีมือการสืบสวนของ พ.ต.อ.ธิติพงษ์ ยังเคยเป็นลูกศิษย์ของนักสืบมือฉมังระดับอาจารย์หลายท่าน อาทิ พ.ต.อ.คณิศชัย มหินทรเทพ (อดีต ผกก.สส.บก.น.1), พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข (สมัย เป็น รอง ผบก.น.1 คุมงานสืบสวน), พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. (สมัยเป็น ผบก.สส.บช.น.) และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.
วันนี้ “ดาวประดับฟ้า” พาไปทำความรู้จัก พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ชื่อเล่นว่า “โน๊ต” เกิดวันที่ 18 มิ.ย. 2524 ภูมิลำเนา ชาว อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จบมัธยมศึกษาจาก รร.อรัญประเทศ จบเตรียมทหาร (ตท.) รุ่นที่ 40 และ นักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 56 เริ่มรับราชการ รอง สว.รร.นรต., พงส.(สบ 1) สน.พญาไท, รอง สว.กก.สส.บก.น.1, สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น., รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และปัจจุบัน ผกก.สส.บก.น.9
เพื่อนร่วมรุ่น อาทิ พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.สมคิด ประเชิญสุข ผกก.สน.ลาดกระบัง, พ.ต.อ.ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผกก.สน.บางคอแหลม, พ.ต.ท.สาริษ อักษร รอง ผกก.3 บก.สอท.1 บช.สอท.
วิสัยทัศน์การทำงาน “ทำงานภายใต้กรอบของกฎหมาย อยู่ทุกที่ที่มีงาน ไม่มีใครเป็นพระเอกในงานสืบสวน ทำงานเป็นทีม องค์ความรู้ด้านการสืบสวน ประสบการณ์ที่เคยทำงาน กับ ความเป็นตัวตน หลอมรวมให้นักสืบ”