เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ
ผมเป็นชายวัยกลางคนมีความรู้สึกว่าอวัยวะเพศแข็งตัวไม่เต็มที่ ลักษณะหัวอวัยวะเพศจะมีสีซีดเหมือนไม่มีเลือด ซึ่งต่างจากของเพื่อนจะมีสีแดงเข้มและแข็งมาก ๆ ช่วงตอนเช้า ๆ อวัยวะเพศก็ไม่ค่อยจะขึ้น ตอนนี้ผมอายุ 48 ปีแล้วเคยผ่านผู้หญิงมา 3 คน ตอนนี้อยู่กับภรรยาคนล่าสุดมีลูก 3 คน ร่วมเพศกับภรรยาไม่เคยมีความสุขเลยอวัยวะเพศจะแข็งตัวแบบนิ่ม ๆ กินยาเฉพาะกิจก็ไม่ได้ผล ถ้าวันไหนได้ร่วมเพศ อีกหลายวันกว่าจะร่วมได้อีกเพราะไม่ค่อยจะมีอารมณ์ เมื่อปี 2561 ไปตรวจร่างกายพบว่าไขมันในเลือด 286 เบาหวานไม่มี ความดันก็ไม่มี ออกกำลังกายบ้าง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตอนนี้เครียดกับเรื่องอวัยวะเพศไม่แข็งตัวตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน

ด้วยความนับถือ
โจ

ตอบ โจ
ปัญหาของชายวัย 48 ปี คืออวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่ตั้งแต่สมัยตอนเด็ก เข้าสู่วัยหนุ่ม จนถึงปัจจุบัน ที่น่าสนใจคือหัวของอวัยวะเพศจะมีสีซีดเหมือนไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยง และลูกชายของเขาก็มีลักษณะเดียวกัน อาจจะมีชายบางคนหรือหลายคนที่ไม่เคยสังเกตสีของอวัยวะเพศของตัวเองซึ่งสีที่แสดงออกสามารถบ่งบอกอาการทางกายได้ว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรคอะไรซึ่งทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที เมื่อทำการรูดหนังหุ้มปลายลง บริเวณหัวขององคชาตจะมีสีแดงสด ชมพูระเรื่อ ขาวซีด หรือเขียวคล้ำ สีของหัวองคชาตสามารถบอกอาการได้ดังเช่นใบหน้าของเรา

หากใครมีสีของหัวองคชาตสีแดงแจ๊ด แสดงว่าเสี่ยงเป็นเบาหวาน โรคนี้พบได้บ่อยและมักทำให้อวัยวะเพศอ่อนตัว แข็งตัวไม่เต็มที่ หากมีสีชมพูระเรื่อเวลาอาบน้ำแสดงว่าแข็งแรงปึ๋งปั๋ง ระบบไหลเวียนเลือดดี ถ้ามีสีขาวซีดแสดงว่าเลือดไหลเวียนมาที่อวัยวะเพศน้อย ขาดเลือดหล่อเลี้ยง แต่หากมีสีเขียวช้ำเลือดช้ำหนองแสดงว่ามีไขมันเยอะซึ่งพบได้ในคนไข้เบาหวานเรื้อรัง ไขมันสูง ติดเหล้า สูบบุหรี่จัด ยิ่งหากมีสีม่วงคล้ำแสดงว่ามีไขมันเยอะมากต้องรีบทำการรักษา

แต่สาเหตุที่หัวอวัยวะเพศของชายวัย 48 ปี มีสีซีดก็น่าจะมาจากการมีเลือดน้อย พบได้ในกลุ่มโรคโลหิตจางหรือที่เรียกว่าเลือดจาง หรือโรคซีด เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงหรือฮีโมโกลบินซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดงและมีหน้าที่นำพาออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ตลอดจนแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้เนื้อเยื่อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอและเกิดภาวะคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ ส่งผลให้มีอาการเหนื่อยง่าย โรคนี้คือโรคธาลัสซีเมีย สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลูก พบมากในประเทศไทย อาการจะมีอาการซีด ตาเหลือง ตับ ม้ามโต เป็นต้น

ดังนั้นคู่สามีภรรยาควรพากันไปตรวจเลือดหาพาหะของโรคซีดก่อนที่จะวางแผนครอบครัวหรือการมีบุตร ใครที่เป็นโรคนี้แล้วควรได้รับการรักษา สำหรับอาการอีดีที่เป็นอยู่ก็ต้องเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นร่วมด้วยจะได้ทำการรักษาได้หลายวิธีอย่างถูกวิธีและปลอดภัย ใช้เวลา 2-3 ครั้งก็แข็งแรง ร่วมเพศได้นาน 30 นาทีทุกวัน ชีวิตคู่ก็จะมีความสุขทั้งคู่.

……………………………………….
ดร.โอ สุขุมวิท51

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…