ถูกสนใจอยู่อย่างมากมายสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “Beetlejuice Beetlejuice” ที่นำแสดงโดย ไมเคิล คีตัน, วิโนนา ไรเดอร์, เจนนา ออร์เทกา เป็นต้น ซึ่งบอกเลยว่าหลายคนรอคอยที่จะได้สัมผัสความสนุกกันอย่างต่อเนื่อง งานนี้ yimyim เลยไม่พลาดไปล้วงลับบทสัมภาษณ์ของ 2 นักแสดงนำอย่าง ไมเคิล คีตัน (บีเทิลจู๊ดส์) และ วิโนนา ไรเดอร์ (ลิเดีย) มาฝากกัน
คุณคิดว่าทำไมหนังภาคแรกถึงได้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญในวัฒนธรรมป๊อป มันยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงและตัวละครก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก?
ไมเคิล คีตัน : ผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันครับ [หัวเราะ] ผมคิดว่าผมพูดไปเป็นพันๆ ครั้งแล้ว แต่ก็จริงนะ คือมันเป็นหนังที่มีเอกลักษณ์แตกต่าง มันไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “มีเอกลักษณ์จริงๆ” หรือ “มีเอกลักษณ์มากๆ” หรอก มันมีแต่ว่ามีหรือไม่มีเอกลักษณ์เท่านั้นแหละ และ Beetlejuice ก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง มีความเป็นต้นแบบ 100% เต็ม ผมมักจะพูดเสมอว่ามันเป็นงานศิลปะ คุณแทบจะหยิบเอาหนังเรื่องนี้ไปแขวนโชว์บนผนังได้เลย แถมมันยังมีความเป็นอมตะและสร้างความประทับใจให้คนดูได้ด้วย ผมคิดว่าผู้คนถูกดึงดูดด้วยงานภาพที่ไม่ธรรมดา เพราะหลายส่วนเป็นงานภาพที่โดดเด่นและมุกตลกจากภาพ น่าสนใจดีนะครับที่ผู้คนเปิดรับจินตนาการอันบริสุทธิ์จากทิม เป็นจินตนาการบริสุทธิ์ล้วนๆ ไม่เคยมีใครเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อน
อะไรที่ทำให้ Beetlejuice, Beetlejuice เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้?
ไมเคิล คีตัน: ตอนแรกผมกับทิมคิดว่าไม่ได้มีเหตุผลให้กลับมาจนกระทั่งเรานึกออกว่าควรจะทำอะไร เรามักจะโทรศัพท์คุยกันเรื่องพวกนี้เป็นบางครั้งอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราตกลงกันคือ ถ้าจะหยิบเรื่องนี้กลับมาทำ มันจะต้องไม่ใช้เทคโนโลยีมากเกินไป ผมคิดว่าคนจำนวนมากไม่รู้ตัวว่าทำไมตัวเองถึงชอบ Beetlejuice แต่ผมมักกลับมานึกถึงคำว่า “แฮนด์เมด” อยู่บ่อยๆ เพราะหนังเรื่องนั้นเป็นหนังแฮนด์เมดจริงๆ แต่ผมคิดว่าที่แน่ๆ คือเราต้องมีเรื่องราวที่ดี และคราวนี้เรื่องราวยิ่งแข็งแรงกว่าเดิมอีก ถ้าถามความเห็นผมนะ ทิมเชื่อมั่นในเรื่องราวนี้อย่างแท้จริง และเจนนา วิโนนา และแคเธอรีนก็เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว แม้ว่าบีเทิลจู๊ดส์จะเป็นแกนหลักของเรื่องนี้ก็ตาม เรื่องราวแข็งแรงขึ้นและคุณจะรักประสบการณ์โดยรวมที่ได้รับ… และบีเทิลจู๊ดส์ก็คือความสนุกสนานในประสบการณ์ครั้งนี้
ไมเคิลคุณก็ได้พบนักแสดงใหม่ๆ ที่มาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย คุณช่วยพูดถึงการทำงานกับเจนนา ออร์เทกา, วิลเลม เดโฟ, จัสติน เทอโรซ์ และนักแสดงใหม่คนอื่นๆ ได้ไหม?
ไมเคิล คีตัน: ครับ เราไม่มีทางทำได้แน่ถ้าขาดวิโนนา ผมคิดว่าทิมกับผมคงไม่สนใจอยากทำเรื่องนี้ถ้าไม่ได้วิโนนากลับมา และเราก็คงจะไม่สนใจทำเหมือนกันถ้าขาดแคเธอรีน เจนนาได้บทไปตั้งแต่ช่วงแรกๆ เลย มันเข้ากับเธอได้อย่างเหมาะเจาะ ซึ่งต้องยกความดีให้เธอนะ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเข้ามาแทรกในเรื่องราวที่ถูกเล่าไปแล้ว และกลมกลืนไปกับมันได้พอดี ผมต้องบอกเลยว่าทีมนักแสดงภาคแรกนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ทีมนักแสดงภาคนี้ก็ดีงามไม่แพ้กัน และเราได้มีโอกาสได้ปรับปรุงตัวละครบางตัวด้วย การแนะนำตัวละครของวิลเลมเป็นส่วนที่สนุกมาก และจัสติน [เทอโรซ์] ก็ตลกสุดๆ นักแสดงภาคนี้ดีไม่แพ้ภาคแรกเลย หรืออาจดีกว่าด้วยซ้ำ
หลังจากภาคแรกครองพื้นที่พิเศษในวัฒนธรรมป๊อป แฟนๆ ก็รอคอยกันมานานหลายปีให้หนังเรื่องนี้มีภาคต่อ คุณตื่นเต้นกับมันขนาดไหน?
วิโนนา ไรเดอร์: ฉันว่าเราต่างรู้กันดีว่าหนังภาคต่อจะออกมาเวิร์คได้ก็ต่อเมื่อทิมเป็นคนกำกับเอง และไมเคิลกับแคเธอรีนต้องมาร่วมแสดงด้วย แต่ทุกๆ ปีหรือสองปี ฉันจะได้พบทิมและเราก็มักจะจับเข่าคุยกันเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ แล้วพอมันเกิดขึ้นจริงๆ ฉันจำได้ว่าตัวเองรู้สึกหวั่นใจอยู่นะคะ ฉันต้องถามตัวเองว่า แล้วตอนนี้ลิเดียคือใคร เธอมีลูกแล้ว การมีลูกได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปโดยสิ้นเชิง แต่เธอก็ยังคงเป็นลิเดีย ฉันคิดว่าลูกสาวของเธอ แอสทริด [รับบทโดยเจนนา ออร์เทกา] เป็นส่วนสำคัญในการสร้างตัวตนของลิเดียในเวลานี้ เรากลับไปพบลิเดียในช่วงเวลาที่แปลกประหลาดในชีวิตเธอ เธอคล้ายอยู่ในโหมดที่ทำทุกอย่างไปโดยอัตโนมัติ คล้ายกำลังหลงทาง… แต่แล้วทุกคนก็กลับมารวมตัวกันและเรื่องราววุ่นวายก็ตามมา [หัวเราะ] ฉันว่าบทหนังเรื่องนี้เยี่ยมมาก และเราต่างก็รู้สึกสบายใจในการกลับมาเล่นหนังเรื่องนี้ เป็นประสบการณ์ที่งดงามท่ามกลางความปั่นป่วนในเชิงสร้างสรรค์ นับว่าเป็นบรรยากาศที่วิเศษมากค่ะ
การกลับมารับบทลิเดียที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วและอยู่ในจุดที่น่าสนใจของชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง?
วิโนนา ไรเดอร์: ฉันไม่เคยต้องกลับไปรับบทเดิมในหนังเรื่องไหนมาก่อนเลย ฉันเล่นซีรีส์ก็จริงแต่มันไม่เหมือนกัน เพราะนี่คือการกลับมาหาบทที่…ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผ่านมากี่ปีแล้ว ฉันอายุ 15 ตอนเล่นหนังภาคแรก เพราะฉะนั้นมันเหมือนยาวนานชั่วชีวิตเลย ฉันรู้สึกหวั่นใจอยู่บ้างซึ่งฉันคิดว่าเราทุกคนก็คงรู้สึก แต่พอเริ่มต้นไปแล้ว เราก็พบจังหวะที่ลงตัวได้เอง ทิมชัดเจนในรายละเอียด แต่เขาก็เปิดรับความเห็นของคนอื่นด้วยซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่งดงามในตัวเขา เขาอาจลงลึกในทุกๆ รายละเอียดแต่ก็ยังคงเปิดกว้างรับแนวคิดหรือวิธีการในการเล่นฉากแต่ละฉาก ทำให้นักแสดงรู้สึกว่าได้มีส่วนร่วมในเนื้องานจริงๆ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราจะได้พบเห็นกันบ่อยๆ หรอก แต่การทำงานกับทิมมีความมหัศจรรย์อยู่ในนั้นจริงๆ ค่ะ ฉันคิดว่าเขาทุ่มเทใจให้งานนี้ และฉันได้เห็นว่าเขาเข้าใจในตัวละครลิเดียมากแค่ไหน ซึ่งฉันว่าน่าประทับใจมากเลย
ดูเหมือนว่าบีเทิลจู๊ดส์ยังคงหลงใหลในตัวลิเดีย การได้พบกับไมเคิลที่กลับมารับบทเป็นบีเทิลจู๊ดส์อีกครั้งเป็นอย่างไร?
วิโนนา ไรเดอร์: การได้เห็นเขาแต่งหน้าเป็นบีเทิลจู๊ดส์อีกครั้งเป็นประสบการณ์ที่ฉันจะไม่มีวันลืมเลยค่ะ ตอนที่ถ่ายทำกับไมเคิลในห้องใต้หลังคาซึ่งเป็นฉากแรกที่เราเล่นด้วยกัน ฉันได้แต่คิดว่า “โว้ว นี่มันที่ไหนเมื่อไหร่กันเนี่ย นี่มันปีอะไรแล้ว” มันน่าตื่นเต้นมากค่ะ ทุกฉากที่ฉันเล่นกับเขามันน่าเหลือเชื่อ เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่พิเศษสุดเท่าที่ฉันเคยได้รับมาเลย อาจฟังดูแปลกหน่อยนะเพราะเขาเล่นเป็นบีเทิลจู๊ดส์และฉันเป็นลิเดีย แต่ฉันไม่เคยรู้สึกปลอดภัยกับนักแสดงคนไหนเท่านี้มาก่อนเลย เขาเป็นทุกอย่างที่คุณหวังว่าจะให้เขาเป็น ฉันคิดว่าไมเคิลเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง แล้วเขาก็ยังคอยดูแลเราด้วย เขาคอยอยู่ข้างๆ เสมอ คอยหนุนหลังเราและดูแลให้เรารู้สึกสบายใจ ซึ่งบีเทิลจู๊ดส์ไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอน แต่ไมเคิลน่ะเขาเป็นคนอย่างนั้น เพราะฉะนั้นการที่เขาแปรสภาพไปเป็นตัวละครนั้นได้จึงเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง การทำหนังเรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฉันเลย ฉันอยากใส่ใจในทุกๆ ช่วงเวลาของหนังเรื่องนี้ เพราะอะไรแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เป็นประสบการณ์ที่พิเศษจริงๆ ค่ะ
ลิเดียมีลูกสาวชื่อว่าแอสทริด ซึ่งมีอายุเท่ากับลิเดียในหนังภาคแรก การทำงานร่วมกับเจนนา ออร์เทกาและสร้างความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างแม่ลูกเป็นอย่างไรบ้าง?
วิโนนา ไรเดอร์: ฉันรักเจนนามากๆ เลยค่ะ เธอเป็นคนที่มีบุคลิกโดดเด่นชัดเจนมาก เป็นคนมีเสน่ห์น่าค้นหาและใจกว้างมากๆ ด้วย การได้เจนนามารับบทในหนังเรื่องนี้ถือเป็นของขวัญชิ้นสำคัญเลย เจนนารับบทได้อย่างน่าทึ่งเพราะเธอไม่ใช่ลิเดีย เธอได้สร้างตัวละครที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา ฉันมักจะมองว่าเธอเป็นลูกสาวของลิเดียจริงๆ เพราะเธอได้รับมรดกจากลิเดียมาหลายอย่าง แต่เจนนาก็ได้สร้างบุคลิกตัวละครในแบบของเธอขึ้นมาด้วยซึ่งฉันชอบมากๆ เราพบกันครั้งแรกที่บ้านของทิม ตอนนั้น “Wednesday” เพิ่งออกมา ฉันรู้ว่าการเล่นในซีรีส์ที่โด่งดังเป็นพลุแตกขึ้นมามันสร้างความรู้สึกท่วมท้นได้มากแค่ไหน ฉันเลยเข้าไปสวมกอดเธอและรู้สึกถึงความเป็นแม่ที่มีต่อเธอทันทีเลย ในการทำงานวันที่สามของฉัน ซึ่งเป็นวันที่เราถ่ายทำในห้องใต้หลังคา เราก็เริ่มคุยกันเป็นจริงเป็นจัง และเหมือนกับว่าเมื่อประตูได้เปิดออกแล้ว มันก็จะไม่มีทางปิดลง นั่นเป็นวันที่เราได้ผูกสัมพันธ์กันทั้งหน้ากล้องและหลังกล้อง ฉันรู้สึกเหมือนได้เห็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่อายุยังน้อย เพียงแต่ว่าเธอเท่กว่าเป็นร้อยเท่าเลยค่ะ
ผู้ชมจะคาดหวังอะไรได้บ้างจากการชม Beetlejuice, Beetlejuice บนจอใหญ่?
วิโนนา ไรเดอร์: ความคาดหวังของผู้ชมน่าจะสูงมากเลยนะคะ แต่ฉันก็มั่นใจว่าเราทำได้ตามความคาดหวังและเหนือกว่านั้นด้วย มันออกมาเกินความคาดหวังของฉันค่ะ ทั้งที่ความคาดหวังของฉันก็สูงมากเหมือนกัน มันเป็นผลงานที่สนุกมากและแน่นอนว่าสมควรที่จะได้รับชมผ่านจอภาพยนตร์ขนาดใหญ่ และฉันคิดว่าคนทุกรุ่นจะได้พบอะไรบางอย่างที่ตัวเองชื่นชอบในหนังเรื่องนี้ มันยอดเยี่ยมแน่นอนสำหรับแฟนๆ ที่ติดตามผลงานของทิม ฉันรู้ว่าแฟนๆ มีความคาดหวังสูงและความคาดหวังของฉันก็สูงมากเหมือนกัน การทำได้ตามความคาดหวังและทำให้ดียิ่งขึ้นไปกว่านั้นอีกให้ความรู้สึกที่วิเศษมากเลยล่ะค่ะ
แหม…ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าจะหลงรักภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้วล่ะสิ!
คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”
โดย yimyim