“ทีมข่าวอาชญากรรม”สัปดาห์นี้หยิบยกที่มาที่ไป ตลอดจนขั้นตอนยื่น“คำร้องขอคุ้มครองสวัสดิภาพในศาลเยาวชนและครอบครัว” ซึ่งล่าสุดสำนักงานศาลยุติธรรมพัฒนาระบบให้ยื่นได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ CIOS ที่ข้อดีคือสะดวก ทุกคนทำได้เองทั้งกระบวนการ
ขั้นตอนการใช้ ผู้ร้อง หรือผู้แทน ลงทะเบียนระบบ CIOS เลือกช่องผู้เสียหายในคดีอาญา/ความรุนแรงในครอบครัว/คุ้มครองเด็ก ก่อนกรอบข้อมูลและยื่นคำร้อง โดยเลือกศาลเยาวชนฯในพื้นที่ ระบุพฤติการณ์ผู้ที่ทำร้ายโดยสรุป ในขั้นตอนนี้สามารถแนบภาพถ่ายบาดแผล หลักฐานความรุนแรง เอกสารรับรองแพทย์
ท้ายคำร้องมีช่องว่าต้องการให้คุ้มครองอย่างไร เช่น ให้ออกจากบ้านที่อยู่อาศัยของผู้เสียหาย , ให้ไปบำบัดอาการติดสุรา ยาเสพติด การพนัน หรือห้ามเข้าใกล้ ระบบจะส่งคําร้องเสนอผู้พิพากษา หากเป็นการไต่สวนในเหตุฉุกเฉิน จะไต่สวนออนไลน์ และมีคำสั่งโดยเร็วที่สุดภายใน“ครึ่งวัน”
(นิยามของคำร้องขอสวัสดิภาพคือ การขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่เกิน 6 เดือน เช่น ขอให้ไม่เข้าใกล้ ไม่ให้ติดต่อ ไม่ให้เสพสุรา ไม่ให้ยั่วยุ หรือก่อเหตุที่จะไปสู่ความรุนแรง หรือขอให้บำบัดรักษา ซึ่งเป็นมาตรการทางแพ่ง หรืออาจใช้คำว่ามาตรการพิเศษ ต่างจากการร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญาที่มีวัตถุประสงค์ในการลงโทษ ไม่ใช่ในทางคุ้มครอง)
ทั้งนี้ เมื่อศาลมีคําสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพ ไม่ว่ากรณีไต่สวนในเหตุฉุกเฉิน หรือไต่สวนปกติ ศาลจะแจ้งคําสั่งผ่านระบบออนไลน์ไปยังนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา หรือเจ้าพนักงานอื่น ให้ติดตามกํากับการปฏิบัติตามคําสั่ง รายงานศาล และส่งเจ้าพนักงานตํารวจ หรือฝ่ายปกครอง เพื่อทราบตามความพร้อมแต่ละหน่วยงาน
นายเผดิม เพ็ชรกูล อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เผยว่า คดีความรุนแรงในครอบครัวมักพบปัญหาคือ ผู้เสียหายลังเลที่จะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ดังนั้น ระบบคุ้มครองสวัสดิภาพจึงมี 2 ระบบ ได้แก่ ระบบดําเนินคดีอาญาควบคู่คำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพ กับระบบคุ้มครองสวัสดิภาพอย่างเดียว
อีกปัญหาคือ ผู้ที่ต้องการยื่นคําร้องต้องยื่นที่ศาลพร้อมทนาย เพื่อให้ศาลทําการไต่สวน ต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทางและจ้างทนายเขียนคำร้อง รอเวลาติดหมายแจ้งคู่กรณี นัดไต่สวน ซึ่งกว่าจะจบคดีต้องใช้เวลา ขณะที่เหตุความรุนแรงในครอบครัวบางครั้งเป็นเหตุที่เกิดในเชิงวิกฤต ถูกคุกคาม ถูกทําร้าย การจะเดินทางมาศาลย่อมไม่สะดวก
“ระบบยื่นออนไลน์จึงสะดวก อยู่ที่ไหนก็ยื่นได้ ยิ่งกรณีฉุกเฉินจะมีคำสั่งเร็วมากในวันเดียว ผู้ยื่นเป็นผู้ถูกกระทำไม่จำกัดเพศ–อายุ เทียบกับการแจ้งตำรวจที่อาจเกลี้ยกล่อมให้ไกล่เกลี่ย หรือไม่รับแจ้งเพราะเป็นเรื่องทะเลาะกัน หรือหากรับไว้ต้องใช้เวลาทำสำนวนส่ง รออัยการสั่งฟ้องต่อศาลอีกที กว่าจะมีคำสั่งอาจจะได้รับความเป็นธรรมที่ล่าช้า”
นอกจากนี้ ระบบจะมีการประสานกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อบังคับใช้คําสั่งคุ้มครองให้ครบวงจร เพราะมีบ้านพักฉุกเฉินของสตรีและเด็ก สามารถนําตัวผู้ถูกกระทําไปในความดูแล นําตัวจําเลยหรือผู้กระทําส่งบําบัดยาเสพติด บําบัดจิตได้เลย
ทั้งนี้ คําสั่งที่ได้จากคำร้องขอออนไลน์ยังสามารถส่งตรงตรวจเร็วไปยังผู้บังคับใช้อย่าง เจ้าพนักงานตํารวจ ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ยกตัวอย่าง คําสั่งที่ออกกรณีสามีทําร้ายภรรยา อาจมีคําสั่งห้ามเข้าไปในเคหสถานที่อยู่อาศัยของภรรยา ห้ามเข้ที่ทํางานของภรรยา กําหนดระยะห่างการเข้าพบภรรยา หรือลูก ระยะ 30-50 เมตร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ระบบรับคำร้องออนไลน์นี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้พบเห็น หรือเพื่อนบ้าน สามารถยื่นแทนผู้เสียหายได้ เนื่องจากคดีความรุนแรงในครอบครัวมันไม่ใช่เรื่องของสามีภรรยา ไม่ใช่เรื่องของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งเท่านั้น คําว่าบุคคลในครอบครัว หมายถึง ตัวสามี ภรรยาที่จดทะเบียนถูกต้อง , บุคคลที่อยู่กินฉันท์สามีภรรยา ไม่ได้จดทะเบียน , สามีภรรยาที่หย่าร้างกันแล้ว แต่ยังมาคุกคาม , สามีภรรยาที่อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา ไม่ได้จดทะเบียน แต่ก็เลิกรากันไปแล้ว
ยังหมายรวมถึง“บุคคลในครัวเรือน” อาจเป็นลักษณะลูกหลานที่มาพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นๆ เช่น ลูกหลานมาจากต่างจังหวัด มาเรียนหนังสือที่บ้านหลังนี้ก็ถือเป็นคนในครัวเรือน
“บุคคลในครอบครัวตามพ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัวฯกว้างมาก และกฎหมายมีเจตนารมณ์จากนี้ไปคดีความรุนแรงในครอบครัวซึ่งต้องการคุ้มครองสวัสดิภาพ จะไม่ใช่เรื่องของผัวเมียในครอบครัวนั้น ผู้ที่พบเห็นการกระทํา จะเป็นคนข้างบ้าน ผู้องค์กรเอกชน หรือองค์กรทางสังคมก็สามารถร้องทุกข์ได้”
ส่วนข้อสังเกตเรื่องการแจ้งเท็จ ศาลจะมีการตรวจสอบ หากยื่นคําร้องไม่ถูกต้อง ยื่นเป็นเท็จ จะดำเนินการตามกฎหมายเกี่ยวข้อง เช่น นําสืบพยานหลักฐานเท็จ ร้องเท็จ จะมีความผิดทางอาญา ต้องดูบริบทเป็นรายคดีว่ามีเจตนาอย่างไร ซึ่งระบบนี้เด็ก เยาวชนจะอายุเท่าใดก็ยื่นคำร้องต่อศาลได้ โดยผู้พิพากษาจะใช้ดุลยพินิจพิจารณาพยานหลักฐานตามคำร้อง ไม่จำเป็นต้องทำผ่านผู้ปกครอง หรือรอให้บรรลุนิติภาวะ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุด หลังเปิดช่องทางยื่นผ่านออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองผ่านช่องทางออนไลน์รายแรก กับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงราย เป็นเหตุร้องถูกทำร้ายร่างกาย จึงขอห้ามไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้าใกล้ และห้ามก่อเหตุคุกคามอีก ผู้ร้องไม่ได้อ้างเหตุฉุกเฉิน จึงเป็นนัดไต่สวนกรณีปกติ ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกที่ผู้ร้องไม่ต้องเดินทางยื่นด้วยตัวเอง.
ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน