ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นหลายหน่วยงานรัฐออกกวาดล้างจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งร้านค้า-โกดัง และผู้ที่ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กและเยาวชนตามหน้าสถานการศึกษา ตามนโยบายของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
โดยก่อนหน้านี้ ทีมข่าว Special Report ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในแง่มุมต่างๆ ไปแล้ว 3 ตอน และวันนี้มีโอกาสสนทนากับ น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้า สภาผู้แทนราษฎร ว่ากมธ.ชุดดังกล่าวได้มีการประชุมพิจารณาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ากันไปถึงไหนแล้ว
กมธ.หาข้อสรุปยาก! “สายหมอ” ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย
น.ส.พนิดา กล่าวว่าโดยส่วนตัวต้องการที่จะเข้าไปปรับปรุงแก้ไขกฏหมายบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้เข้ากับบริบทของสังคมไทยในปัจจุบัน เพราะอะไร เพราะสภาพของกฎหมายไทยในเวลานี้คือ “แบน” บุหรี่ไฟฟ้า 100% แต่บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ยังมีขายกันแพร่หลาย หาซื้อง่าย เช่น ย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ มีขายกันเป็น 10 ร้าน แถวๆจ.สมุทรปราการก็มีพอสมควร ขายกันทางออนไลน์ก็เยอะ จำนวนคนสูบก็มาก แถมมีการแพร่ระบาดในหมู่เด็ก-เยาวชน-นักเรียน ซึ่งตรงนี้น่าห่วง
เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าที่ว่าเป็นของผิดกฎหมาย เป็นของห้ามนำเข้า แต่ทำไมกลับหาซื้อง่ายในหลายๆช่องทาง และราคาไม่แพง เด็ก-เยาวชนจึงสามารถหาซื้อมาสูบกันได้
ในส่วนของกมธ. มีการประชุมพิจารณาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ากันไปถึงไหน ก็ต้องเรียนตามตรงว่าเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ายังหาข้อสรุปยาก ทั้งที่มีการประชุมกันมากว่า 10 ครั้ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร เนื่องจากเป็นการประชุมรับฟังข้อคิดเห็น ฟังมุมมองจากหลายภาคส่วน
โดยต้องยอมรับว่า ถ้ารับฟังความเห็นจากกลุ่มคน “สายแพทย์” ที่มาจากกระทรวงสาธารณสุข-กรมควบคุมโรค-มูลนิธิต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย เพราะถ้ามองผลเสียต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่มวน บุหรี่ไฟฟ้า หรือแม้แต่เหล้า 1 หยด ล้วนมีผลต่อปัญหาสุขภาพทั้งหมด
แต่กมธ. ก็ต้องประชุมรับฟังความเห็นจากหลายภาคส่วนด้วย ไม่เฉพาะรับฟังจาก “สายแพทย์” เท่านั้น ในประเด็นที่ว่าเมื่อทำให้บุหรี่ไฟฟ้าหายไปจากประเทศไทยไม่ได้ โดยไม่ให้นำเข้า ห้ามลักลอบนำเข้า แล้วจะทำอย่างไรให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งถูกกฎหมาย สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่แต่งสี แต่งกลิ่น แต่งรส เพื่อมาดึงดูดนักสูบหน้าใหม่ๆ
“ก้าวไกล” มีนโยบาย “ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า”
น.ส.พนิดา กล่าวต่อไปว่า ในส่วนพรรคก้าวไกล เรามีเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าไว้เป็น 1 ในจำนวน 300 นโยบาย การหาเสียงของพรรคในช่วงก่อนการเลือกตั้งใหญ่เดือนพ.ค.66 เกี่ยวกับการ “ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า”
โดยมีสาระสำคัญของนโยบายนี้ ว่าปัจจุบันมีธุรกิจที่ผิดกฎหมายแต่ยังคงเปิดดำเนินการอยู่เป็นจำนวนมาก โดยที่รัฐก็ไม่ได้มีแนวคิดที่จะปราบปรามจริงจัง จนสุดท้ายกลายเป็นช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์ และนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ที่ร้ายแรงมากยิ่งขึ้น เช่น การฟอกเงินของผู้ค้ายาเสพติดและการค้ามนุษย์ รวมไปถึงไปถึงการกดขี่ลูกจ้างแรงงานในอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม
การนำธุรกิจที่แต่เดิมผิดกฎหมายและอยู่ใต้ดินให้ขึ้นมาอยู่บนดิน โดยมีการกำกับควบคุมอย่างเข้มข้นน่าจะเป็นทางออกที่จะสามารถควบคุมการดำเนินธุรกิจได้จริง ปิดช่องที่จะเกิดการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ รวมไปถึงการคุ้มครองแรงงานให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และยังสามารถสร้างรายได้เข้ารัฐในรูปแบบของภาษี และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตได้อีกด้วย
สำหรับข้อเสนอของพรรคก้าวไกล 1.อนุญาตให้มีการผลิต นำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยได้ 2.มีข้อกำหนดเช่นเดียวกับบุหรี่ เช่น จำกัดอายุผู้สูบ ห้ามสูบในที่สาธารณะ การห้ามโฆษณาและจัดโปรโมชั่น 3.ต้องมีมาตรการในการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ เช่น การห้ามแต่งกลิ่น และรสของผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า