ถามว่ามาอยู่กาตาร์ร่วม 3 สัปดาห์ ผมไปที่ไหนบ่อยที่สุด นอกเหนือจากสนามบอลและ Main Media Center หรือศูนย์ผู้สื่อข่าวหลัก?

คำตอบน่าจะเป็น Souq Waqif (ซูค วาคีฟ) ตลาดพื้นเมืองเก่าแก่ อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังกลางกรุงโดฮานั่นแหละ

นอกจากการหาซื้อของพื้นเมืองและร้านอาหารต่าง ๆ แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ผมชอบใน ซูค วาคีฟ คือการไปเดินดูโซนสัตว์เลี้ยงตามประสาคนชอบเลี้ยงสัตว์ ซึ่งคล้าย ๆ จตุจักรบ้านเรา แม้อาจจะไม่เยอะและหลากหลายเท่า แต่ก็พอเดินได้เพลิน ๆ

และหนึ่งในความอเมซิ่งสำหรับผมที่นี่ คือร้านขาย “นกเหยี่ยว”…

หลายท่านอาจจะทราบว่า การเลี้ยงนกเหยี่ยวเพื่อล่าสัตว์​ คือหนึ่งในวิถีชิวิตของชายชาติชาวกาตาร์​ รวมถึงชาติตะวันออกกลางอื่น ๆ มาตั้งแต่ครั้งโบราณ ปัจจุบันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น

ใน ซูค วาคีฟ นี่ มีโซนหนึ่งที่จัดเป็นโซนของร้านขายนกเหยี่ยวโดยเฉพาะ ภายในร้านจะอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการเลี้ยงนกเหยี่ยวจำหน่าย ขณะที่ส่วนโชว์นก ก็จะมีนกเหยี่ยวยืนเกาะคอนที่อยู่บนพื้นทรายอยู่เรียงรายให้ลูกค้าเข้ามาเลือกชม 

ขณะที่ เจ้าของร้านก็ต้องดูแลอย่างดี ต้องคอยเดินตักขี้นกในทรายออก รวมถึงคอยป้อนอาหาร ซึ่งเป็นไก่สดหั่นเป็นชิ้นๆ ให้ถึงปาก เพราะนกเกือบทั้งหมดถูกจับสวมหมวกหนังปิดตา ให้อยู่ในความสงบ 

ส่วนเรื่องของสนนราคานั้น เท่าที่ถามมา ก็มีตั้งแต่ลูกนกตัวขนาดย่อม ๆ เริ่มต้นที่ 500 ริยัล หรือราว 5,000 บาท ส่วนพวกที่โตเต็มวัย เฉลี่ยอยู่ที่ราวตัวละ 5,000 ริยัล หรือ 50,000 บาท แล้วแต่สภาพ สายพันธุ์ และความสวยงาม 

ผมแอบกระซิบถามเจ้าของร้านว่า เท่าที่รู้ นกเหยี่ยวตัวที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในกาตาร์ ราคาเท่าไหร่ แกตอบกลับมาว่า เกิน 1 ล้านริยัล หรือกว่า 10 ล้านบาทไทย!

แต่เมื่อได้ศึกษาเรื่องราวแล้วก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะที่นี่ นกเหยี่ยว เป็นสัตว์เลี้ยงชั้นสูง ขนาดสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ยังอนุญาตให้เจ้าของเอานกขึ้นเครื่องได้ เอาขึ้นไปบนห้องโดยสารได้ด้วยซ้ำ (ถ้าเข้าใจไม่ผิดรู้สึกจะต้องซื้อที่นั่งให้)

แถมใกล้ ๆ ยังมีโรงพยาบาลเพื่อรักษาเหยี่ยวโดยเฉพาะ เรียกได้ว่า นี่คือสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความเคารพ อีกทั้งมันยังเป็นเครื่องบอกสถานะอย่างหนึ่งของคนเป็นเจ้าของด้วย

ยิ่งสวย ยิ่งแพง เจ้าของยิ่งเป็นคนใหญ่คนโต ว่างั้นเถอะ…

ผยองเดช