เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา กุญแจสำคัญในการระบายน้ำสู่พื้นที่ภาคกลางยังคงมีการตรึงอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1,899 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อย่างต่อเนื่องจากวานนี้
สำหรับปัจจุบันที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 1,938 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 15.98 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 14.19 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 2.15 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1,899 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยทางกรมชลประทานได้มีการคงอัตราการระบายน้ำดังกล่าวจากเมื่อช่วงวานนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่ทางด้านท้ายน้ำได้รับผลกระทบหนัก ขณะเดียวกันพื้นที่ลุ่มต่ำที่อาศัยอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาในหลายจุดด้านท้ายเขื่อนทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เร่งนำกระสอบทรายอุดตามท่อระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำจากแม่น้ำนั้นไหลย้อนเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนลุ่มต่ำ
อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ทางสำนักงานชลประทานที่ 12 โดยกรมชลประทานก็ยังต้องขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยยังคงต้องติดตามและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
