สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ว่ากระทรวงข่าวสารเมียนมาออกแถลงการณ์ เชิญผู้แทนกองกำลังชาติพันธุ์ และ “องค์กรก่อการร้าย” ที่รวมถึงกองกำลังพิทักษ์ประชาชน ( พีดีเอฟ ) และกลุ่มหัวรุนแรงอีกหลายกลุ่ม “ให้สื่อสารร่วมกัน” เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งภายในประเทศ “ด้วยวิธีทางการเมือง” ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดสันติภาพ และการพัฒนาประเทศในระยะยาว


ขณะที่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ( เคเอ็นยู ) ซึ่งเป็นองค์กรฝ่ายการเมืองของชาวกะเหรี่ยง กล่าวว่า การเจรจาอย่างจริงจังจะเกิดขึ้นและเป็นไปได้ เมื่อรัฐบาลทหาร “เห็นพ้องกับเป้าหมายทางการเมืองร่วมกันเท่านั้น”


ทั้งนี้ สภาบริหารแห่งรัฐ ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของรัฐบาลทหารเมียนมา มีคำสั่งเมื่อสิ้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ขยายระยะเวลาการประกาศใช้คำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ออกไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งพล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา กล่าวว่า การต่อเวลาการบังคับใช้คำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉิน “ยังคงมีความจำเป็น” เนื่องจากรัฐบาลต้องการเวลาเพื่อจัดเตรียม “การเลือกตั้งที่สมบูรณ์และเที่ยงตรง”


อนึ่ง รัฐบาลทหารเมียนมาซึ่งยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ให้คำมั่นจะจัดการเลือกตั้ง “ภายในปี 2568” โดยยังไม่ได้ระบุช่วงเวลาอย่างชัดเจน ขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของเมียนมา ซึ่งจัดทำเมื่อปี 2551 โดยรัฐบาลทหารในเวลานั้น ระบุว่า การเลือกตั้งทั่วไปต้องเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 6 เดือน หลังมีการยกเลิกบังคับใช้คำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉิน.

เครดิตภาพ : AFP