ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดการโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารและพร้อมเพย์ของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการในวันแรก 3.17 ล้านคน พบว่าส่วนใหญ่มีการโอนราบรื่นด้วยดี แต่ทว่าพบปัญหาการโอนไม่สำเร็จเกือบ 5 หมื่นรายการ แบ่งเป็นผู้พิการโอนไม่ได้ 8,829 ราย และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0 อีก 40,554 ราย โดยสาเหตุปัญหาส่วนใหญ่ของผู้พิการ คือ บัตรหมดอายุและไม่ได้ทำบัตร ส่วนของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น มาจากหลายสาเหตุ ทั้งบัญชีเงินฝากถูกปิด บัญชีไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน บางบัญชีไม่มีการทำบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน นอกจากนี้ยังพบบางส่วนไม่มีเลขบัญชี หรือเลขบัญชีที่ผิด

ดังนั้น ขอประชาสัมพันธ์หากใครที่ตกหล่นไม่ได้รับเงินโอนตามกำหนดดังกล่าว หรือสมัครบัญชีพร้อมเพย์ไม่ทัน ขอให้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนและตรวจสอบบัญชีเงินฝากธนาคารให้มีสถานะปกติ เช่นเดียวกับผู้พิการที่มีสถานะต้องแก้ไข เช่น บัตรหมดอายุ หรือข้อมูลบัตรผิดพลาด จะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด

ทั้งนี้ จะมีการโอนซ้ำให้อีก 3 ครั้ง ได้แก่ รอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 1 จ่ายวันที่ 22 ต.ค.67 จะต้องทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัว คนพิการภายในวันที่ 10 ต.ค.67 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับ เลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 ต.ค.67 ส่วนรอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 2 จ่ายวันที่ 22 พ.ย.67 ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัว คนพิการภายในวันที่ 12 พ.ย.67 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับ เลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 18 พ.ย.67 และรอบจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 3 จ่ายวันที่ 22 ธ.ค.67 จะต้องทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัว คนพิการภายในวันที่ 3 ธ.ค.67 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน ภายในวันที่ 16 ธ.ค.67 เมื่อพ้นกำหนดแล้วจะยุติการจ่ายเงิน

ส่วนการจ่ายเงินในวันที่สอง 26 ก.ย.67 ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ที่มีบัตรประชาชนลงท้ายเลข  1, 2, 3 จำนวน 4.51 ล้านคน กระทรวงการคลังได้ทยอยโอนตั้งแต่เที่ยงคืน และสามารถทยอยให้ครบทุกบัญชีได้ในช่วงตี 4 โดยใช้เวลา 4 ชั่วโมงก็โอนครบทั้งหมด ซึ่งประชาชนที่ได้สิทธิสามารถเช็กบัญชี หรือถอนเงินได้ที่สาขา ตู้เอทีเอ็ม หรือแอพพลิเคชัน โมบาย แบงกิง ของบัญชีที่ทำพร้อมเพย์ผูกกับเลขบัตรประชาชนไว้