เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปเหตุการณ์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองสิงห์บุรี โดยเป็นคลิปในคืนวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะเวลาประมาณ 22.20 น. มีผู้นั่งกินอาหารในร้าน 2 โต๊ะ โต๊ะด้านนอกเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวด้วยกัน มีเด็ก 2 คน อายุ 3 ปี และ 4 ปี อีกโต๊ะเป็นหญิงรูปร่างท้วม ตัดผมสั้น มีลักษณะเป็นสาวทอม ทราบต่อมาว่าเป็น อดีต สจ. อายุ 63 ปี นั่งกินข้าว และดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมกับหญิงอีก 2 คน

ต่อมา อดีต สจ.รายดังกล่าว ที่อยู่ในอาการมึนเมาทะเลาะกับหญิงที่มาด้วย ทราบต่อมาว่า เป็น นายก อบต. แห่งหนึ่ง ใน จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นเพื่อนสาวของ อดีต สจ. โดย อดีต สจ. ได้ผลักไหล่เพื่อนสาว และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนตะโกนด่าโต๊ะพ่อแม่ลูกว่า “มองหน้าทำไม”

จากนั้นไม่นาน นายเอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ผู้เป็นสามี ลุกเดินมาถาม อดีต สจ. ว่า “พี่ว่าอะไรเมียผมหรือเปล่า” พนักงานในร้านพากันเข้ามาห้าม เพราะกลัวเกิดเรื่องราว โดย อดีต สจ. บอกว่า “ไม่เกี่ยว มึงกินโต๊ะมึง มาเกี่ยวอะไรกับกู” หลังจากนั้นเกิดการทะเลาะกัน คนในร้านพยายามห้ามบอกว่า “อย่าทะเลาะกัน หนูขายอาหารยาก” อดีต สจ. ตอบว่า “ไม่ต้องขายแม่งมัน จะสักกี่บาทกัน”

จากนั้นภรรยาที่มาด้วยกับนายเอ ได้เข้ามาห้าม และได้เดินกลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม พร้อมเรียกเช็กบิลค่าอาหาร ด้านเพื่อนสาว อดีต สจ. ได้เดินกลับมาที่โต๊ะหลังไปเข้าห้องน้ำ โดย อดีต สจ. ได้ขอกุญแจรถ บอกจะขับรถตามครอบครัวที่มีปัญหากันว่าบ้านอยู่ที่ไหน ก่อนเดินเข้าไปหาครอบครัวพ่อแม่ลูกที่นั่งอีกโต๊ะ โดยหยิบขวดขึ้นมาจะตีใส่ นายเอ ซึ่งกำลังนั่งโอบลูกชายไว้ ได้หันมาพอดี จึงเกิดการผลักกันไปมายังถนน โดยมีคนมาช่วยจับแยกจากกัน

ขณะนั้นเอง น้องบี (นามสมมติ) อายุ 4 ขวบ ลูกชายคนโต ของนายเอ วิ่งไปดูเหตุการณ์ จังหวะนั้น อดีต สจ. หันมาเห็นก็วิ่งไปกระชากศีรษะ น้องบี และเหวี่ยงลงกับพื้นทำให้ศีรษะกระแทกกับพื้นอย่างแรง นายเอ เห็นดังนั้น ก็ตะโกน “ลูกกูๆๆๆ” พร้อมวิ่งเข้าไปชก อดีต สจ. ด้วยความโกรธแค้น พร้อมถามว่า “มึงทำอะไรลูกกู มึงทำลูกกูทำไมๆ” ก่อนที่จะมีคนเข้ามาห้าม โดยที่ครอบครัวพ่อแม่ลูก ได้เข้าแจ้งความ ที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี

ภายหลังผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ น.ส.ซี (นามสมมติ) ภรรยานายเอ และแม่ของน้องบี เล่าว่า ตนและสามี เป็นชาวบ้านธรรมดา ทำงานรับจ้างทั่วไป ไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องกับใครเลย วันเกิดเหตุนั้น ได้ไปทานข้าวที่ร้านอาหารดังกล่าวเป็นประจำกับครอบครัว ประกอบไปด้วยตน สามี และลูกชาย 2 คน ขณะเกิดเหตุตนได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดังจึงหันไปดู พอดีกับจังหวะที่ผู้หญิงผมสั้นใส่เสื้อสีดำหันมาเห็น และตะโกนเสียงดังใส่ตนว่า “มองหน้าทำไม” หนูก็ยกมือไหว้ขอโทษ และบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ และหนูได้ยินคนในร้านบอกว่า “ไม่เอาน่ะ สจ. หนูขอ” ซึ่งหนูก็ไม่รู้ว่าเขาเป็น สจ.ที่ไหน

สักพักมีพี่ผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีเหลืองเดินมาหาที่โต๊ะและมาบอกว่าขอโทษด้วย พี่เขาเมา หนูก็บอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ หนูก็ขอโทษด้วยที่หันไปมอง ซึ่งหนูไม่ได้ตั้งใจจะมอง พอพี่ผู้หญิงเดินกลับไปที่โต๊ะสักพัก ผู้หญิงใส่เสื้อสีดำ ก็มายืนว่าโต๊ะหนูกลางร้าน และเดินมาทางข้างหลังแฟนหนูและหยิบขวดจะมาตีแฟนหนู และก็เกิดการชุลมุนเกิดขึ้น

หนูก็ไปห้ามแฟนหนู คนในร้านและพี่ผู้หญิงก็มาดึงผู้หญิงใส่เสื้อสีดำ และลูกหนูคนโตวิ่งไปดู คงเพราะไม่อยากเห็นคนทะเลาะกัน และกำลังวิ่งกลับไปที่โต๊ะ อดีต สจ. ก็วิ่งไปดึงหัวลูกหนูและเหวี่ยงลงพื้นอย่างแรง แฟนหนูเห็นดังนั้นจึงเกิดความโมโหวิ่งเข้าไปต่อยกับเขาพร้อมกับถามว่า ทำลูกกูทำไมๆ หนูก็เข้าไปห้ามบอกว่า พอแล้วๆ และพากันไปแจ้งความที่ทำร้ายลูกหนู

ลูกหนูเมื่อมาถึงบ้านก่อนนอนบอกว่า ปวดหัวๆ นอนไม่หลับ เลยพาลูกไปโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลเบื้องต้นหลังจากที่ตรวจแล้วบอกว่าให้กลับไปดูอาการที่บ้านก่อน ถ้ามีอาการผิดปกติให้พามาที่โรงพยาบาล พอกลับมาที่บ้านอีกรอบ น้องก็พูดแต่ว่า พี่เขาทำหนู พี่คนใจร้ายผลัก

พอเช้า ลูกหนูอาเจียน 3 ครั้ง หนูก็พาลูกไปตรวจที่โรงพยาบาลอีก และเอกซเรย์สมอง ไม่พบอาการผิดปกติอะไร พอกลับมาบ้าน ลูกหนูก็จะมีอาการผวา พูดย้ำไปย้ำมาว่าพี่เขาใจร้ายทำหนูๆ และพอนึกได้อีกก็พูดอีก หนูก็ได้แต่ปลอบลูก หนูก็อยากให้เขาโดนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับทราบเรื่องคือ วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา มีแม่ของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กชาย อายุ 4 ขวบ มาร้องทุกข์แจ้งความ ว่า ขณะที่คืนวันที่ 23 ก.ย. ได้ไปทานอาหารกับครอบครัวที่ร้านอาหาร มี อดีต สจ. เข้ามาเอะอะโวยวาย และมีเหตุการณ์ต่อสู้กันตามคลิปกล้องวงจรปิดที่เห็น จึงมาแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้นเราได้ส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี เพื่อจะได้รู้ว่าเด็กได้รับบาดเจ็บขนาดไหน ทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายได้ ในส่วนของคดีได้ให้พนักงานสอบสวนในพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและได้ดำเนินการให้ตรวจสอบรายละเอียดของคดีตลอดจนผู้เกี่ยวข้องให้เป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ เพื่อให้พนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

สำหรับทางร้านอาหารและคู่กรณี ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อเพื่อขอทราบเหตุการณ์ทางร้านอาหารแจ้งว่าไม่สะดวก ส่วนคู่กรณีติดต่อไม่ได้.